นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมติดตามนโยบายและขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาล ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยมีทูตพาณิชย์จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) รวมถึงสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเข้าร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วน
นายพิชัย กล่าวถึงการรับมือกับการเปลี่ยนผู้นำสหรัฐฯ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง ว่า ไทยและทั่วโลกย่อมมีผลกระทบ แต่เชื่อว่าไทยจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ไทยต้องวาง position ของตัวเองให้ดี ที่ผ่านมาสินค้าของไทยถูกส่งออกไปอเมริกามากขึ้น จากกำแพงภาษีจีน เมื่อทรัมป์มา เรื่องกำแพงภาษีสินค้าจากจีนก็จะเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้นส่งออกเราจึงมีแนวโน้มทิศทางที่ดี ดังจะเห็นว่ามีการลงทุนจากต่างประเทศมาต่อเนื่อง รวมถึงการค้าการลงทุนก็มากขึ้น
นายพิชัย เปิดเผยด้วยว่า หลายประเทศมาเจรจาทั้งอยากมาลงทุน และอยากเป็นคู่ค้ากับไทย ซึ่งสัปดาห์หน้าตนเองจะไปประชุมเอเปคร่วมกับนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศเปรู ก็เชื่อว่าจะสามารถดึงการค้า การลงทุนได้เพิ่มมากขึ้น
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 25-27 พฤศจิกายนนี้่ สหรัฐฯ จะพานักลงทุนรายใหญ่หลายรายมาไทย เพื่อเจรจาเรื่องการลงทุน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของไทยที่จะมีการลงทุนเพิ่ม รวมถึงการส่งออกเพิ่ม
"เอมริกาทุกอย่างตั้งอยู่บนผลประโยชน์ หากเรารักษาผลประโชย์ให้อเมริกาได้ เราก็ยังได้ประโยชน์ ดังนั้นหากบริษัทจากอเมริกามาตั้งฐานลงทุนที่ไทย เชื่อว่าอเมริกาจะไม่บล็อกบริษัทสัญชาติของตัวเอง ที่สำคัญไทยต้องบาลานซ์ความสัมพันธ์ให้ดี ไม่เลือกข้าง เราต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เทคโนโลยี" นายพิชัย กล่าว