ตัวแทนเครือข่ายกองทัพธรรม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และศูนย์รวมประชาชนปกป้องกลุ่มสถาบัน (ศปปส.) รวมตัวกันที่หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แยกบางขุนพรหม เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์คัดค้านกรณีมีนักการเมืองแทรกแซงการปฏิบัติงานของ ธปท. พร้อมนำรายชื่อประชาชนจำนวน 20,999 รายชื่อ ที่ร่วมกันลงชื่อคัดค้านมาส่งมอบให้กับ ธปท.โดยมีตัวแทนของ ธปท.เป็นผู้รับมอบ โดยจะนำเรื่องส่งมอบให้กับเลขาเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่อไป
นายพิชิต ไชยมงคล ตัวแทน 3 เครือข่าย กล่าวว่า วันนี้ได้นำรายชื่อ 20,999 รายชื่อ มายื่นเพื่อต้องการคัดค้านใน 2 ประเด็น โดยประเด็นแรก ไม่ต้องการให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงาน ธปท. เนื่องจากมีความกังวลว่าการคัดเลือกประธานกรรมการ ธปท.อาจจะมีการล็อกสเปค ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.คลัง มาเป็นประธานกรรมการ ธปท. ซึ่งที่ผ่านมามีการทักท้วงมาโดยตลอด
ส่วนประเด็นที่ 2 คือ ต้องการเรียกร้องให้นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ แสดงสปิริตลาออกจากประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ เนื่องจากนายสถิตย์ เคยถูกศาลฎีกา สั่งให้ร่วมชดใช้ ความเสียหายแก่รัฐ 6.6 หมื่นล้านบาท กรณีแก้สัมปทานให้เอไอเอส ปี 2544 จึงมองว่าไม่มีความสง่างาม สำหรับบุคคลที่ดำรงตำแหน่งในการบริหารนโยบายการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ทำหนังสือทักท้วงไปถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อทบทวนเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทราบว่าวันนี้มีการเลื่อนประชุมเพื่อคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติออกไปเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งเครือข่ายฯ จะเดินทางมาแสดงเจตจำนงอีกครั้ง ซึ่งหากไม่ได้รับการตอบรับก็จะมีการยกระดับการชุมนุมต่อไป รวมถึงขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาว่ามีช่องทางสามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญ คล้ายกับกรณีคดีของนายพิชิต ชื่นบาน ได้หรือไม่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 15 วัน
นายพิชิต ย้ำว่า คนที่เหมาะสมที่จะเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ จะต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้มีความรู้การเงินการคลังของประเทศ และไม่มีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนักการเมือง