นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการณ์แสดงความเสียใจ ต่อกรณีแรงงานไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุโจมตีจากฝั่งเลบานอนเข้ามายังตอนเหนือของอิสราเอล จากการตรวจสอบทราบว่านายจ้างได้ขอนุญาตนำแรงงานไทยเข้าไปในพื้นที่เป็นระยะเวลาสั้นๆ แค่ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งกองทัพอิสราเอลได้อนุญาต โดยพบว่านายจ้างเสียชีวิตด้วย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ไทยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยย้ำความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความขัดแย้งด้วยอาวุธที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในฉนวนกาซา เลบานอน และพื้นที่อื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งส่งผลให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก พร้อมเรียกร้องขอให้คู่ขัดแย้งทุกฝ่ายยุติการโจมตีตอบโต้กันด้วยอาวุธโดยทันที เพื่อไม่ให้สถานการณ์ยิ่งยืดเยื้อและวิกฤติการณ์ทางมนุษยธรรมย่ำแย่ลง เพื่อเร่งฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคแห่งโอกาสและความหวัง
ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุดในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและการปล่อยตัวประกัน ซึ่งรวมถึงคนไทยที่เหลืออยู่โดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ และประเทศผู้สนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติมาอย่างยาวนาน ขอย้ำให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน รวมถึงการปกป้องบุคลากร เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพและเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมขอสหประชาชาติอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้เสียชีวิต 4 ราย ได้แก่ นายอรรคพล วรรณไสย มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.อุดรธานี นายประหยัด พิลาศรัมย์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ นายธนา ติจันทึก มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา และ นายกวีศักดิ์ ปาปะนัง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ได้แก่ นายฉัตรชัย ศิลป์ประเสริฐ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ อาการสาหัส
สำหรับประเทศไทย ยึดแนวทาง 2 รัฐ คือ อิสราเอลและปาเลสไตน์