พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีมีคำสั่งให้โอนคดีที่มีผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท มาจาก สภ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มาให้กองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบ ว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีความสลับซับซ้อนและมีมูลค่าความเสียหายสูง ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จึงเสนอเรื่องมา และเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จะเข้าไปดำเนินการสืบสวนสอบสวน จึงอนุมัติให้ทาง บช.ก.ดำเนินการต่อ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทราบว่าทางพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำในส่วนของผู้เสียหายแล้ว ส่วนจะเป็นการเชิญมา หรือพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำเอง ขอตรวจสอบก่อน ส่วนจะมีการเชิญทนายตั้ม ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา มาให้ปากคำหรือไม่นั้น ก็เป็นกระบวนการสอบสวนอยู่แล้ว หากพบว่ามีความผิดชัดเจน เข้าองค์ประกอบความผิด หรือความผิดเป็นไปตามฐานใดและสามารถเรียกมาให้ปากคำก่อนก็ได้ เหมือนคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป หรือสุดท้ายอาจจะมีการพิจารณาออกหมายเรียกหรือหมายจับขึ้นอยู่พยานหลักฐาน ย้ำว่าเรื่องนี้เมื่อมีการกล่าวหาก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง หรือพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ไม่มีอะไรที่ต้องน่าวิตกกังวลอะไร
ส่วนกรณีผู้ถูกกล่าวหาเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ต้องมีมาตรการหรือกำชับอะไรพนักงานสอบสวนเป็นพิเศษหรือไม่ รวมถึงป้องกันการหลบหนี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวต้องรอบคอบ รัดกุม อีกทั้งเรื่องการป้องกันหากมีพฤติการณ์หลบหนีก็เป็นหน้าที่ของ บช.ก. ว่าจะมีการจัดชุดป้องกันหรือไม่ แต่ที่ผ่านมามีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว