นายอิทธิเดช ตัวแทนผู้รวบรวมผู้เสียหายของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป กล่าวว่า ขณะนี้ตนรวบรวมผู้เสียหายจากต่างประเทศได้มากกว่า 20 ราย ทั้งจากประเทศจีน เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมนี เอสโตเนีย สวีเดน ลักเซมเบิร์ก แคนาดา สหรัฐอเมริกา มาเก๊า และฮ่องกง
ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวไทยที่ไปแต่งงานกับชาวต่างชาติและพำนักอยู่ที่นั่น รวมทั้งยังชักชวนญาติชาวต่างชาติร่วมเปิดบิลลงทุนกับดิไอคอน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท วันนี้นอกจากตนพาผู้เสียหายจากฮ่องกงมาแจ้งความแล้ว ยังได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายชาวอังกฤษและคนไทยที่อยู่ในลักเซมเบิร์ก เอสโตเนีย อิตาลี ให้เข้าแจ้งความแทนด้วย
คุณนิน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเห็นโฆษณาผ่านโซเชียลจึงทักและได้รับการชักชวนผ่านแม่ข่ายชื่ออักษรย่อ จ. ให้ร่วมลงทุน นอกจากนี้ตนยังเห็นป้ายโฆษณาในประเทศไทตามทางด่วน เป็นโฆษณาของดิไอคอน ตนเห็นว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ มีแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และตนเองมีอาชีพเปิดร้านขายของชำ รับสินค้าจากประเทศไทยไปขายที่เกาลูน ฮ่องกง อยู่แล้ว จึงตัดสินใจเปิดบิลสินค้าคอลลาเจนกับดิไอคอน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จำนวน 2 บิล มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท อีกทั้งยังชักชวนเพื่อนชาวไทยอีก 3 คน ในฮ่องกง มาร่วมลงบิลด้วย รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ปรากฏว่าตนต้องเป็นคนลงทุนเบิกสินค้าข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศไทยไปฮ่องกง แต่ไม่สามารถขายสินค้าดังกล่าวได้เลย เนื่องจากมีราคาสูงและไม่เป็นที่นิยมของคนฮ่องกง ขายได้เพียงแค่คนไทยด้วยกันเองเท่านั้น และเมื่อบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เกิดปัญหา ทำให้ตนไม่สามารถเบิกสินค้าจากคลังของบริษัทได้ อีกทั้งคดีความที่เกิดขึ้น จึงส่งผลสินค้าของบริษัทขาดความน่าเชื่อถือ ยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายและไม่สามารถคืนทุนได้ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เพราะถือเป็นการฉ้อโกง ทำให้ตนและเพื่อนคนอื่นที่มาเปิดบิลกับดิไอคอน ได้รับความเสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท