ความคืบหน้าการติดตามอาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียน 3 คน จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี นั้น
เด็กหญิงอายุ 7 ปี และ 9 ปี ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรตินั้น โดยเด็กหญิง อายุ 7 ปี ทีมกุมารแพทย์ ระบุว่า อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) ยังมีไข้ต่ำๆ ยังมีความดันโลหิตสูงเล็กน้อย ไม่มีอาการผิดปกติ สามารถหายใจได้เองโดยไม่ต้องใช้ออกซิเจน สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ หยุดยานอนหลับ ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับประทานอาหารทางปาก และสามารถกินนมได้ ปัสสาวะและอุจจาระปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ไม่พบตำแหน่งติดเชื้อชัดเจน เฝ้าติดตามอาการ และเฝ้าระวังการติดเชื้อแทรกซ้อน
ทีมศัลยแพทย์ ระบุว่า ทำการเปิดแผลในห้องผ่าตัดพบว่า แผลที่หน้าสะอาดดี การหายเป็นตามกระบวนการที่ควรจะเป็น และบางส่วนต้องปะปลูกผิวหนัง สำหรับแผลที่มือทั้งสองข้าง ส่วนที่ปะปลูกผิวหนังไปแล้วผิวหนังติดได้ดี มีบางนิ้วของมือขวา มีแนวโน้มจะยึดติด จึงทำการยิงเหล็กดามไว้ มีพื้นที่บางส่วนที่ต้องการปลูกผิวหนังเพิ่มเติม จะทำพร้อมกับแผลที่หน้า สัปดาห์หน้า ผู้ป่วยเริ่มทำกายภาพเดินข้างเตียงและนั่งรถเข็นออกไปเที่ยวด้านนอกหอผู้ป่วย
-ทีมจักษุแพทย์ ระบุว่า ตรวจแผลในห้องผ่าตัด ตาขวากระจกตาเริ่มใสมาบ้าง เยื่อรกละลายบางส่วน กระจกตาตรงกลางมีขุ่นบ้าง ตาซ้ายมีกระจกตาขุ่นบริเวณค่อนไปทางริมกระจกตา มีโอกาสได้วัดความดันลูกตา พบว่าความดันลูกตาขึ้น เพิ่มยาต้อหิน ลดความดันตาทำการใส่คอนแทคเลนส์แบบใสที่ตาขวา กดรีดต่อมไขมันที่เปลือกตาบนล่าง และเย็บเปลือกตาติดกันบางส่วน เพื่อช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นและการหายของแผล เมื่อวาน(23 ต.ค.67) ลืมตาเองพอได้ พอมองเห็นที่ระยะ 1 ฟุต เปลือกตาซ้ายบวมเล็กน้อย กระจกตาขุ่นและมีผิวกระจกตาถลอกบางส่วน คอนแทคเลนส์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ส่วนเด็กหญิง อายุ 9 ปี ทีมกุมารแพทย์ ระบุว่า อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า ไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) สัญญานชีพปกติ ผู้ป่วยมีไข้ต่ำๆ 38 องศาเซลเซียส ให้ยาลดความดันโลหิต ยังมีความดันสูงเป็นครั้งคราวสัมพันธ์กับอาการปวด หายใจได้เองโดยไม่ต้องให้ออกซิเจน ไม่หอบเหนื่อย สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี เริ่มกินอาหารทางปากได้เพิ่มมากขึ้น ปัสสาวะและอุจจาระปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดต่อเนื่อง และเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง
ทีมศัลยแพทย์ ระบุว่า ทำการผ่าตัดเนื้อตายบริเวณแขนทั้งสองข้าง นำเนื้อตายออกทั้งบริเวณมือและปลายแขนมีอาการปวดแผลมากขึ้น ได้ยาแก้ปวดขนาดที่มากขึ้นจากทีมวิสัญญี บาดแผลบริเวณแขนด้านบนเริ่มมีผิวหนังขึ้นมาปกคลุมแล้วบางส่วน แนวโน้มไข้คงเดิม วางแผนวันศุกร์นี้ (25 ต.ค.67) ปิดแผลด้วยผิวหนังผู้ป่วย
ทีมจักษุแพทย์ ระบุว่า เมื่อวานตรวจแผลในห้องผ่าตัด พบว่า ตาขวายังมีเซลล์ต้นกำเนิดเหลืออยู่ กระจกตาบริเวณขอบ ใสขึ้น ตาซ้ายพบว่า มีแผลถลอกที่กระจกตาขนาดใหญ่ มีบริเวณกระจกตาบาง ค่อนไปริมกระจกตาเป็นวง 360 องศา ตรงกลางกระจกตามีฝ้าขาว มีโอกาสได้วัดความดันลูกตา พบว่าความดันลูกตาขึ้น ตาขวาทำการใส่คอนแทคเลนส์ใส ตาซ้ายทำการวางเซลล์ต้นกำเนิดผิวกระจกตา วางเยื่อรก และใส่คอนแทคเลนส์ใสในตาซ้ายอีกครั้ง กดรีดต่อมไขมันที่เปลือกตาบนล่าง และเย็บเปลือกตาติดกันบางส่วน เพื่อช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นและการหายของแผล หลังผ่าตัดได้รับยา เลือด สารเพิ่มความชุ่มชื้นในตา ยาฆ่าเชื้อ และยาลดความดันตา วันนี้ลืมตาเองพอได้ ปวดตาบ้าง เปลือกตาซ้ายบวม คอนแทคเลนส์และเยื่อรกคลุมกระจกตา ทำให้ประเมินกระจกตาค่อนข้างยากในตาซ้าย แผนการรักษา วางแผนเข้าห้องผ่าตัดประเมินผิวกระจกตาและวางเซลล์ต้นกำเนิดกับเยื่อรกอีกครั้ง
ขณะที่เด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่รักษาตัวที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์นั้น อาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้ดีขึ้นมาก ไม่พบการติดเชื้อ ไม่พบปัญหาข้อติดยึด สามารถทํากายบริหาร ยืดเหยียดข้อไหล่ ข้อศอก และข้อนิ้วมือ เพื่อป้องกันข้อติดได้ดี ด้านจิตใจผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ นอนหลับได้ดี มีวิธีการจัดการอารมณ์ที่ดี ผลการรักษาเป็น ที่พึงพอใจของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับบ้านต่อไป
เด็กหญิงอายุ 7 ปี และ 9 ปี ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรตินั้น โดยเด็กหญิง อายุ 7 ปี ทีมกุมารแพทย์ ระบุว่า อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) ยังมีไข้ต่ำๆ ยังมีความดันโลหิตสูงเล็กน้อย ไม่มีอาการผิดปกติ สามารถหายใจได้เองโดยไม่ต้องใช้ออกซิเจน สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ หยุดยานอนหลับ ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับประทานอาหารทางปาก และสามารถกินนมได้ ปัสสาวะและอุจจาระปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ไม่พบตำแหน่งติดเชื้อชัดเจน เฝ้าติดตามอาการ และเฝ้าระวังการติดเชื้อแทรกซ้อน
ทีมศัลยแพทย์ ระบุว่า ทำการเปิดแผลในห้องผ่าตัดพบว่า แผลที่หน้าสะอาดดี การหายเป็นตามกระบวนการที่ควรจะเป็น และบางส่วนต้องปะปลูกผิวหนัง สำหรับแผลที่มือทั้งสองข้าง ส่วนที่ปะปลูกผิวหนังไปแล้วผิวหนังติดได้ดี มีบางนิ้วของมือขวา มีแนวโน้มจะยึดติด จึงทำการยิงเหล็กดามไว้ มีพื้นที่บางส่วนที่ต้องการปลูกผิวหนังเพิ่มเติม จะทำพร้อมกับแผลที่หน้า สัปดาห์หน้า ผู้ป่วยเริ่มทำกายภาพเดินข้างเตียงและนั่งรถเข็นออกไปเที่ยวด้านนอกหอผู้ป่วย
-ทีมจักษุแพทย์ ระบุว่า ตรวจแผลในห้องผ่าตัด ตาขวากระจกตาเริ่มใสมาบ้าง เยื่อรกละลายบางส่วน กระจกตาตรงกลางมีขุ่นบ้าง ตาซ้ายมีกระจกตาขุ่นบริเวณค่อนไปทางริมกระจกตา มีโอกาสได้วัดความดันลูกตา พบว่าความดันลูกตาขึ้น เพิ่มยาต้อหิน ลดความดันตาทำการใส่คอนแทคเลนส์แบบใสที่ตาขวา กดรีดต่อมไขมันที่เปลือกตาบนล่าง และเย็บเปลือกตาติดกันบางส่วน เพื่อช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นและการหายของแผล เมื่อวาน(23 ต.ค.67) ลืมตาเองพอได้ พอมองเห็นที่ระยะ 1 ฟุต เปลือกตาซ้ายบวมเล็กน้อย กระจกตาขุ่นและมีผิวกระจกตาถลอกบางส่วน คอนแทคเลนส์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ส่วนเด็กหญิง อายุ 9 ปี ทีมกุมารแพทย์ ระบุว่า อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า ไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) สัญญานชีพปกติ ผู้ป่วยมีไข้ต่ำๆ 38 องศาเซลเซียส ให้ยาลดความดันโลหิต ยังมีความดันสูงเป็นครั้งคราวสัมพันธ์กับอาการปวด หายใจได้เองโดยไม่ต้องให้ออกซิเจน ไม่หอบเหนื่อย สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี เริ่มกินอาหารทางปากได้เพิ่มมากขึ้น ปัสสาวะและอุจจาระปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดต่อเนื่อง และเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง
ทีมศัลยแพทย์ ระบุว่า ทำการผ่าตัดเนื้อตายบริเวณแขนทั้งสองข้าง นำเนื้อตายออกทั้งบริเวณมือและปลายแขนมีอาการปวดแผลมากขึ้น ได้ยาแก้ปวดขนาดที่มากขึ้นจากทีมวิสัญญี บาดแผลบริเวณแขนด้านบนเริ่มมีผิวหนังขึ้นมาปกคลุมแล้วบางส่วน แนวโน้มไข้คงเดิม วางแผนวันศุกร์นี้ (25 ต.ค.67) ปิดแผลด้วยผิวหนังผู้ป่วย
ทีมจักษุแพทย์ ระบุว่า เมื่อวานตรวจแผลในห้องผ่าตัด พบว่า ตาขวายังมีเซลล์ต้นกำเนิดเหลืออยู่ กระจกตาบริเวณขอบ ใสขึ้น ตาซ้ายพบว่า มีแผลถลอกที่กระจกตาขนาดใหญ่ มีบริเวณกระจกตาบาง ค่อนไปริมกระจกตาเป็นวง 360 องศา ตรงกลางกระจกตามีฝ้าขาว มีโอกาสได้วัดความดันลูกตา พบว่าความดันลูกตาขึ้น ตาขวาทำการใส่คอนแทคเลนส์ใส ตาซ้ายทำการวางเซลล์ต้นกำเนิดผิวกระจกตา วางเยื่อรก และใส่คอนแทคเลนส์ใสในตาซ้ายอีกครั้ง กดรีดต่อมไขมันที่เปลือกตาบนล่าง และเย็บเปลือกตาติดกันบางส่วน เพื่อช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นและการหายของแผล หลังผ่าตัดได้รับยา เลือด สารเพิ่มความชุ่มชื้นในตา ยาฆ่าเชื้อ และยาลดความดันตา วันนี้ลืมตาเองพอได้ ปวดตาบ้าง เปลือกตาซ้ายบวม คอนแทคเลนส์และเยื่อรกคลุมกระจกตา ทำให้ประเมินกระจกตาค่อนข้างยากในตาซ้าย แผนการรักษา วางแผนเข้าห้องผ่าตัดประเมินผิวกระจกตาและวางเซลล์ต้นกำเนิดกับเยื่อรกอีกครั้ง
ขณะที่เด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่รักษาตัวที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์นั้น อาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้ดีขึ้นมาก ไม่พบการติดเชื้อ ไม่พบปัญหาข้อติดยึด สามารถทํากายบริหาร ยืดเหยียดข้อไหล่ ข้อศอก และข้อนิ้วมือ เพื่อป้องกันข้อติดได้ดี ด้านจิตใจผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ นอนหลับได้ดี มีวิธีการจัดการอารมณ์ที่ดี ผลการรักษาเป็น ที่พึงพอใจของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับบ้านต่อไป