xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.เผยมีพื้นที่น้ำท่วม 3 จังหวัด เร่งบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม รวม 13 อำเภอ 152 ตำบล 859 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,440 ครัวเรือน ยังคงส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า ในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 22 ต.ค. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 47 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์ หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ตรัง สตูล และสงขลา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 283 อำเภอ 1,273 ตำบล 6,630 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 259,249 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 57 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน ซึ่งปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ 152 ตำบล 859 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,440 ครัวเรือน แยกเป็น

1) สุพรรณบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง และ อ.อู่ทอง รวม 23 ตำบล 126หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,023 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

2) พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.บางปะหัน รวม 103 ตำบล 599 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,950 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3) นครปฐม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นครชัยศรี อ.บางเลน และ อ.สามพราน รวม 26 ตำบล 134 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,467 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ทั้งนี้ ปภ.ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิคแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด