นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ว่า จะมีค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท ค่าล้างโคลน 10,000 บาท ส่วนกระทรวงการคลังจะมีมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีได้รับเงินชดเชยไม่ต้องมานำรวมเป็นรายได้ ถ้าเป็นนิติบุคคลก็ยกเว้นภาษีเงินได้ ขณะที่กรณีการบริจาคสิ่งของก็สามารถที่จะยกเว้นภาษีเงินได้ด้วย ด้านกรมธนารักษ์จะมีการยกเว้นค่าเช่าให้กับผู้ประสบภัย1 ปีในกรณีที่เสียหายบางส่วน รวมถึงยกเว้นค่าเช่า 2 ปี กรณีเสียหายทั้งหลัง ส่วนเกษตรกรกรมธนารักษ์ก็จะยกเว้นค่าเช่าให้ 1 ปี การผู้ประสบภัยที่กระทบต่อธุรกิจและไม่สามารถมาเปิดธุรกิจได้ภายใน 3 วัน หรือเกิน 3 เดือน ก็จะมีการยกเว้นค่าเช่าแต่จะมีการพิจารณาเป็นรายเดือนไป
ขณะที่การช่วยเหลือจากธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสินจะมีการออกซอฟต์โลนหรือกู้ดอกเบี้ยต่ำจำนวน 50,000 ล้านบาท สำหรับเอสเอ็มอี ธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง ก็จะรับไปพิจารณาปล่อยกู้ต่อ โดยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.5 เป็นระยะเวลา2ปีวงเงินรายละไม่เกิน 40 ล้านบาท สำหรับกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาทจะมีมาตรการพักต้นไม่คิดดอกเบี้ย 6 เดือน พร้อมกันนี้ในส่วนของบัตรเครดิตจะมีการปรับลดอัตราชำระขั้นต้นไม่เกินร้อยละ 3 ใน 3 รอบบัญชี สำหรับธนาคาร ธ.ก.ส. ขยายระยะเวลาการชำระหนี้สูงสุดเป็นระยะเวลา 30 ปี สำหรับกลุ่มลูกหนี้ปกติ และไม่มีหนี้เสีย อีกทั้งมีสินเชื่อฉุกเฉินปรับสภาพคล่องไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย และกู้ไม่เกิน 3 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ใน 6 เดือนแรก และยังปล่อยกู้ไม่เกิน 15 ปี ให้กับการซ่อมแซมบ้าน อุปกรณ์ การเกษตรไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย
ด้านธนาคาร ธอส. มีมาตรการช่วยเหลือลดค่างวดไม่เกินร้อยละ 50 ลดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 2 ระยะเวลา 6 เดือน ขณะที่ลูกค้าเอ็นพีแอลถ้ามีหลักประกัน 1 ปี ประนอมหนี้ไม่เกิน 1 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 หากเกิน1 ปีคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 รวมถึงมีสินเชื่อกู้ซ่อมบ้านรายละไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย3 เดือนแรกร้อยละ 0 ผ่อนชำระที่เหลือผ่อนชำระร้อยละ 2-6 ส่วนธนาคารอิสลาม จะมีการพักหนี้เงินต้น ชำระเฉพาะอัตรากำไรภายใน 6 เดือน
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการส่งเสริมการลงทุน ขณะนี้กำลังพิจารณาการออกระเบียบเป็นพระราชกฤษฎีกา เช่น มาตรการลกหย่อนภาษี สำหรับรายจ่ายซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างสามารถนำมาลดหย่อนภาษี ขยายเวลายื่นแบบชำระภาษี ยกเว้นการนำเข้าเครื่องจักรมาทดแทนเครื่องจักรที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังจะมีการออกซอฟต์โลน สำหรับกลุ่มภาคท่องเที่ยวจำนวน 50,000 ล้านบาท เพื่อเร่งการฟื้นฟูท่องเที่ยวให้กลับมา