ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และนางจิล ไบเดน ภริยา ร่วมพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.67) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการเกิดเหตุ โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นสั้นๆ ที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ และเป็นพิธีแบบยิว โดยผู้นำสหรัฐฯ และภริยายืนสงบนิ่ง ในระหว่างที่แร็บไบสวดมนต์ให้แก่ผู้เสียชีวิต จากนั้น นายไบเดนจุดเทียน 1 เล่ม เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ นายไบเดน อ่านแถลงการณ์ว่า มีพลเรือนที่ได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสมากเกินไป ในช่วงระหว่างปีแห่งความขัดแย้ง และเหตุโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เป็นความโหดร้ายที่ไม่สามารถบรรยายได้ ซึ่งเขาและรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ได้ทำงานร่วมกับอิสราเอลอย่างเต็มที่ ในการรับมือกับอิหร่านและพันธมิตรในภูมิภาค กลุ่มฮามาสในกาซา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกลุ่มฮูตีในเยเมน
อย่างไรก็ตาม วันที่ 7 ตุลาคม เป็นวันที่มืดมนสำหรับชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเขาและนางแฮร์ริส จะไม่หยุดทำงาน เพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา นอกจากนี้ วิถีทางการทูตเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะนำไปสู่สันติสุข ขณะเดียวกัน นางแฮร์ริสและสามีร่วมกันปลูกต้นทับทิมเพื่อเป็นอนุสรณ์ ในที่พำนักของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน
นอกจากนี้ นายไบเดน อ่านแถลงการณ์ว่า มีพลเรือนที่ได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสมากเกินไป ในช่วงระหว่างปีแห่งความขัดแย้ง และเหตุโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เป็นความโหดร้ายที่ไม่สามารถบรรยายได้ ซึ่งเขาและรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ได้ทำงานร่วมกับอิสราเอลอย่างเต็มที่ ในการรับมือกับอิหร่านและพันธมิตรในภูมิภาค กลุ่มฮามาสในกาซา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกลุ่มฮูตีในเยเมน
อย่างไรก็ตาม วันที่ 7 ตุลาคม เป็นวันที่มืดมนสำหรับชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเขาและนางแฮร์ริส จะไม่หยุดทำงาน เพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา นอกจากนี้ วิถีทางการทูตเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะนำไปสู่สันติสุข ขณะเดียวกัน นางแฮร์ริสและสามีร่วมกันปลูกต้นทับทิมเพื่อเป็นอนุสรณ์ ในที่พำนักของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน