เจ้าหน้าที่บังกลาเทศ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย และชาวบ้านอีกมากกว่า 100,000 คนยังคงติดค้างอยู่ในบ้านเรือนในพื้นที่ประสบภัยทางภาคเหนือของประเทศ หลังจากที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน และมีน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาสูง โดยเฉพาะอำเภอเชอร์ปูร์ (Sherpur) เขตปกครองมัยมันสิงห์ทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งนายโตโรฟดาร์ มาห์มูเดอร์ ราห์มาน ผู้บริหารอำเภอเชอร์ปูร์ระบุว่า เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายหนักที่สุด ระดับน้ำของแม่น้ำหลายแห่งล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำ ทำให้ชาวบ้านหลายพันครัวเรือนไร้ที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ บ้านเรือนและถนนหลายสายมีน้ำท่วมสูงหลายฟุต สะพานบางแห่งถล่มลงมา ทำให้หน่วยกู้ภัยไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยได้ กองทัพบังกลาเทศเข้าสนับสนุนการทำงานด้วยการจัดส่งกำลังทหาร พร้อมเรือและเฮลิคอปเตอร์ ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์และอพยพชาวบ้านที่ติดค้างในพื้นที่น้ำท่วมไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
หน่วยงานท้องถิ่นกังวลว่า พื้นที่การเกษตร เช่น พืชผลและไรน่า โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวจะเสียหาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ บังกลาเทศมีประชากร 170 ล้านคน มีภูมิประเทศตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งในปีนี้เผชิญกับน้ำท่วมมาหลายครั้งแล้วในปีนี้ โดยเมื่อเดือนสิงหาคมมีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 70 ราย สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศราว 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามผลศึกษาจากสถาบันวิจัยเซ็นเตอร์ฟอร์ โฟลิซี ไดอะล็อกซ์ (Centre for Policy Dialogue)ของบังกลาเทศ
ปัญาดังกล่าวสะท้อนถึงผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก และผลวิจัยจากธนาคารโลกในปี 2558 ที่คาดว่าประชาชน 3.5 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำของบังกลาเทศเสี่ยงถูกน้ำท่วมทุกปี