นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า ยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน
กับยกเลิกการดูงานของนักการเมือง
ควรยกเลิกอะไรมากกว่ากัน
เกิดประเด็นดราม่า เรื่องควรจะยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนหรือไม่ หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรม ไฟไหม้รถบัสนักเรียนโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี จนนำมาเป็นประเด็นถกเถียงกัน จนเกิดความเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย คือ
1.ฝ่ายที่เห็นควรว่า ยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนจะอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียน และการประหยัดค่าใช้จ่าย
2.ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนให้มีโครงการศึกษาดูงานต่อไป ก็เห็นว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นการส่งเสริมทักษะของนักเรียน และเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนที่พ่อแม่ไม่สามารถนำไปศึกษานอกสถานที่ได้
ส่วนตัวสนับสนุนให้มีโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนต่อไป การยกกรณีตัวอย่างเหตุไฟไหม้รถบัสของนักเรียนมาศึกษาดูงานที่เกิดขึ้นนั้น เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสภาพของรถบัส หรือปัญหาของการเดินทาง เปรียบเสมือนการขึ้นต้นไม้เพื่อเก็บผลไม้ เมื่อพลัดตกลงมา จะไปโค่นต้นไม้ทิ้ง ก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ควรจะแก้ปัญหาต้นตอของปัญหาจริงๆ ไม่ใช่มาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ใครก็ตามที่มีแนวความคิดจะยกเลิก การทัศนศึกษาดูงานของนักเรียน ก็ควรไปยกเลิกโครงการศึกษาดูงานต่างประเทศของส.ส.หรือ ส.ว. และข้าราชการผู้บริหารระดับสูงให้ได้เสียก่อน เพราะการศึกษาดูงานต่างประเทศของส.ส.ผ่านคณะกรรมาธิการสามัญจำนวน 35 คณะ งบประมาณเฉลี่ยคณะละ 8-10 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณ 350 ล้านบาท
ส่วนคณะกรรมาธิการสามัญของสมาชิกวุฒิสภา จำนใน 21 คณะ งบประมาณเฉลี่ยคณะละ 8-10 ล้านบาท รวมงบประมาณ 210 ล้านบาท รวมแล้วใช้งบประมาณ 560 ล้านบาท ถ้ารวมกับงบประมาณศึกษาดูงานต่างประเทศของผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวง ทบวงกรม อีกจำนวนหลายร้อยล้าน รวมๆแล้วงบประมาณนับ1000ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินอย่างมหาศาล น่าจะนำเงินเหล่านี้มาอุดหนุนโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน เพื่อปรับปรุงโครงการให้ได้รถบัสที่มีคุณภาพสูงในการเดินทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ถ้าจะยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน ต้องไปยกเลิกโครงการทัศนศึกษาดูงานต่างประเทศของ ส.ส.,ส.ว.และผู้บริหารระดับสูงของหน่วยราชการให้ได้เสียก่อนจะดีกว่า ถ้ายกเลิกไม่ได้อย่าคิดมารังแกเด็กเลย มันบาปครับ