นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวถึงเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสฯ ว่า หลังจากประกาศภัยพิบัติ จะพิจารณาเงินเยียวยาอย่างไรว่า เหตุการณ์นี้ เรื่องของการช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติอุบัติภัย มีอยู่ว่าเราจะช่วยเรื่องการทำขวัญ โดยสำนักงานประกันภัยได้รายงานเบื้องต้นว่าจะมีเงินที่ชดเชยความเสียหายเหล่านี้ อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย จึงถามย้ำไปว่าต้องไม่มีเงื่อนไขอะไรอีก เพราะเท่าไรก็ไม่คุ้มกับการสูญเสีย แต่เราต้องเร่งจ่ายเงินเยียวยานี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าเรื่องนี้มีความเสียหายมาก เป็นเรื่องที่มีระดับความรุนแรงอยู่ในระดับสูง ดังนั้นเกณฑ์การเยียวยาจะต้องหาทางที่จะเยียวยาในระดับสูงสุด
ส่วนเรื่องตัวเลขอายุการใช้งานที่ระบุว่า 54 ปีของรถบัสคันดังกล่าว เป็นเรื่องของทางกระทรวงคมนาคม ส่วนของกระทรวงมหาดไทย ดูในเรื่องการให้การดูแลครอบครัว การจัดงานให้สมเกียรติ
ในการนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ตนได้รับการแจ้งล่วงหน้ามาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใย และทรงสลดพระทัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้แจ้งมาว่าพระองค์ท่านจะรับการจัดการเรื่องงานทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จะมีการพระราชทานเพลิงให้กับผู้ที่สูญเสียชีวิต โดยกระทรวงมหาดไทยถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ไปจัดการหน้างานให้สมเกียรติกับผู้วายชนม์ ซึ่งมีทั้งครู และนักเรียน
ส่วนที่มีข้อถกเถียงเรื่องยกเลิกการทัศนศึกษา นายอนุทิน ระบุว่า ตนได้ยินคำนี้มาหลายครั้งแล้ว เมื่อมีเหตุ เมื่อวานก็ได้ยินเยอะ ตนคิดว่าการไปทัศนศึกษาไม่ใช่มูลเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้คือเรื่องมาตรฐานของคนขับรถ มาตรฐานการจัดรูปขบวนในการเดินทาง คุณภาพของรถ อย่างกรณีนี้ เราต้องไปดู เพราะตนเห็นกับตา ทำไมรถบัสคันหนึ่งถังแก๊สเยอะขนาดนี้ ตนนับๆ ดูเป็น 10 ถัง ตนไม่ทราบเพราะไม่เคยอยู่กรมขนส่ง ก็ต้องไปดูก่อนว่ากฎหมายเขากำหนดไว้อย่างไร มีถังแก๊สตั้งแต่หน้ารถกลางรถท้ายรถข้างรถ จะเดินทางอะไรกันกะจะแบบไม่ต้องพักต้องผ่อนกันเลยเหรอ โดยมองจากสายตาที่ตนเคยเป็นวิศวกรคุมงานมาก่อน ตนก็มองว่าควรจะมีแผ่นเหล็กที่คอยกั้นไม่ให้ประกายไฟถึงตัว คือจะต้องมีความปลอดภัยมากกว่านี้ เป็นพื้นที่นิรภัย ตนมั่นใจว่ามาตรฐานของกรมขนส่งทางบกมีอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ว่ารถคันนี้ผ่านการตรวจสภาพมาอย่างไร ตำรวจก็คงจะต้องทำหน้าที่การสืบขยายผล แต่ที่เห็นเมื่อวานถามว่าปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ปลอดภัยแน่นอน
ส่วนในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง จะขับเคลื่อนเรื่องนี้แก้กฎหมายในสภาฯ หรือไม่นั้น นายอนุทิน ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นหน้าที่ของทุกคน เราต้องช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด กับลูกหลานของเราอย่างที่บอกการไปทัศนศึกษา เป็นสิ่งที่ดีไม่อย่างนั้นเด็กก็อยู่แต่ในห้องเรียน เห็นทุกอย่างจากรูป ไม่เห็นของจริง แต่การจัดรูปแบบทำอย่างไรให้ดีจริงๆก็มีกฎอยู่สามารถที่จะประสานขอรถตำรวจนำได้ รถทางหลวงนำได้ ต้องกำหนดเรื่องของความเร็วเรื่องของผู้ใหญ่ที่อยู่ในรถที่จะสามารถคอยให้การช่วยเหลือเด็กๆ และกำหนดจำนวนคนขับรถ อย่างกรณีเมื่อวานก็คือรถหนึ่งคัน คนหนึ่งคน ไม่มีอะไรเลย ไม่มีผู้ช่วยคนขับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รู้จักรถเลย มีแต่ครูกับนักเรียน พอเกิดเหตุการณ์ คนขับก็วิ่งลงมาดูก่อนไม่มีผู้ช่วยลงมาคอยปลดล็อคเปิดประตูฉุกเฉิน ถีบหน้าต่างเป็นช่องทางฉุกเฉินเลย มันชัดเจนอยู่แล้ว ว่ามีการละเมิด