นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมตลาดรังสิต ก่อนเริ่มเทศกาลกินเจ 3-11 ตุลาคม 2567 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตลาดรังสิต เพื่อสำรวจราคาและปริมาณสินค้าในตลาดสดช่วงเทศกาลกินเจ ตามโครงการ "พาณิชย์จัดให้ ลดราคา เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด" ซึ่งพบว่าราคาผักสด วัตถุดิบและเครื่องปรุงประกอบอาหารเจ ส่วนใหญ่ทรงตัว และบางส่วนราคาลดลง เช่น เห็ดหอมธรรมชาติ ฟองเต้าหู้ ดอกไม้จีน โปรตีนเกษตร และซอสปรุงรสประเภทถั่วเหลืองต่างๆ ราคาผักสดปรับลดลงหลายรายการ เช่น คะน้า ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักกาดขาว มะเขือเทศ และมะนาว
สำหรับแตงกวา ฟักเขียว หน่อไม้ และข้าวโพด ราคาทรงตัวเท่ากับปีก่อน ซึ่งในตลาดรังสิตมีการจัดแบ่งขายเป็นกำราคาประหยัด อาทิ ผักบุ้งจีน คะน้า ต้นหอม ชุดเครื่องต้มยำ กำละ 10 บาท เป็นต้น ส่วนอาหารสดปรุงสำเร็จที่เป็นเมนูเจ ราคาเริ่มต้นที่เมนูละ 30-40 บาท ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
นายวิทยากร กล่าวต่อว่า จากการสำรวจการจับจ่ายใช้สอยในตลาด พบว่าประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากเงิน 10,000 บาท ที่รัฐบาลแจกให้กลุ่มเปราะบางก่อน ถือเป็นการเติมเงินเข้ามาหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการไม่ให้เกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกับพูดคุยกับสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ไม่ให้สินค้าขาดแคลน
ส่วนโครงการ "พาณิชย์จัดให้ ลดราคา เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด" คาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 2,250 ล้านบาท ลดค่าของชีพให้กับประชาชนได้กว่า 750 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังตั้งจุดตรวจตราชั่งมาตรฐานภายในตลาดรังสิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้มั่นใจว่าซื้อราคาที่ถูกต้องแล้วยังได้น้ำหนักที่ครบถ้วน พร้อมกันนั้น ยังได้ลงพื้นที่สำรวจในตลาดอื่นๆ อีกในกรุงเทพฯและปริมณฑล และหากพบเห็นความผิดปกติในด้านราคาและปริมาณสินค้า สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน