นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567 ของนิด้าโพล ซึ่งปรากฎว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับ 1 ว่า แรงสนับสนุนของประชาชนเป็นกำลังใจสำคัญให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มุ่งมั่นที่จะทำงานแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมาแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ แต่รัฐบาลมุ่งมั่นฝ่าฝันปัญหาและดำเนินการตามนโยบายที่แถลงไว้ ซึ่งหลายนโยบายมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก อาทิ นโยบายเรือธง เงิน 10,000 บาท เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ระดับชุมชน การพักหนี้เกษตรกร 3 ปี การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน การขยายโครงการ ‘30 บาทรักษาทุกที่’ ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ การผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มกราคม 2568
นอกจากนี้ รัฐบาลได้เดินหน้าสานต่อนโยบายการทูต สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก ด้วยการยกระดับหนังสือเดินทางไทย เร่งเจรจาวีซ่าฟรี ดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติจากการลงทุนโดยตรงของบริษัทต่างชาติภายในประเทศ ซึ่งช่วยสร้างงานให้กับชาวไทย ตลอดจนการผลักดันร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด เพื่อเร่งแก้ปัญหา PM 2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ
นางสาวจิราพร กล่าวว่า ผลการสำรวจที่นางสาวแพทองธารได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 นั้น เป็นผลจากการสำรวจความเห็นของประชาชนที่ยังไม่รวมกระแสตอบรับจากประชาชนต่อนโยบายเรือธง ‘เงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจ’ ซึ่งเริ่มดำเนินการในวันที่ 25 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าผลของการแจกเงินหมื่นสู่มือพี่น้องประชาชนให้ได้จับจ่ายใช้สอย จะทำให้เศรษฐกิจหลังจากนี้ถูกกระตุ้นตั้งแต่ระดับฐานรากให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และจะต่อยอดด้วยนโยบายเศรษฐกิจที่จะช่วยสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในระยะยาว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนพอใจในผลงานของรัฐบาลที่นำโดยนางสาวแพทองธารอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับผลการสำรวจผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบประจำเดือนกันยายน 2567 ของสวนดุสิตโพล ที่พบว่านโยบายเงินหมื่นเป็นผลงานเด่นของรัฐบาลที่ประชาชนกว่าร้อยละ 61 ชื่นชอบ ตามมาด้วยการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และการตรึงราคาก๊าซหุงต้มต่ออีก 3 เดือน ซึ่งที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เป็นรัฐบาล และจะได้มีการดำเนินการเพื่อสานต่อความสำเร็จต่อไป
นางสาวจิราพร กล่าวว่า ผลการสำรวจความนิยมดังกล่าว ถือเป็นกำลังใจที่มีค่าจากพี่น้องประชาชน แต่ไม่ว่าจะมีการสำรวจความนิยมหรือไม่ก็ตาม ขอยืนยันว่า รัฐบาลนำโดยนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ก็จะมุ่งมั่นทำงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งตนและคณะรัฐมนตรีทุกท่านจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มความสามารถ เพื่อแก้ไขปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชนต่อไป