xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.เผยยังมีสถานการณ์อุทกภัยใน 17 จังหวัด เร่งระดมความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัย ในระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม-29 กันยายน เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 37 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 219 อำเภอ 940 ตำบล 5,002 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 181,870 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 49 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย หนองคาย อุดรธานี ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 75 อำเภอ 295 ตำบล 1,466 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 39,879 ครัวเรือน รายละเอียดดังนี้

ภาคเหนือ รวม 10 จังหวัด 45 อำเภอ 150 ตำบล 746 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,428 ครัวเรือน

เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย และ อ.แม่ลาว รวม 12 ตำบล 108 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,892 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.สารภี อ.หางดง อ.สันป่าตอง และ อ.ดอยหล่อ รวม 11 ตำบล 25 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

น่าน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นาน้อย อ.นาหมื่น และ อ.เวียงสา รวม 9 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 96 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่พริก อ.สบปราบ อ.เถิน และ อ.เกาะคา รวม 14 ตำบล 69 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,489 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.ป่าซาง อ.บ้านธิ อ.ทุ่งหัวช้าง อ.แม่ทา อ.เวียงหนองล่อง และ อ.บ้านโฮ่ง รวม 29 ตำบล 234 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,113 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

แพร่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ลอง อ.วังชิ้น อ.สูงเม่น อ.เมืองฯ และ อ.เด่นชัย รวม 22 ตำบล 86 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,151 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก รวม 5 ตำบล 39 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,315 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ชนแดน อ.ศรีเทพ อ.หล่มเก่า อ.หนองไผ่ และ อ.หล่มสัก รวม 7 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 738 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 26 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,694 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และ

สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.เมืองฯ รวม 15 ตำบล 51 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,940 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 5 จังหวัด 19 อำเภอ 69 ตำบล 359 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,463 ครัวเรือน

หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ และ อ.โพนพิสัย รวม 26 ตำบล 146 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,717 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ และ อ.สร้างคอม รวม 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 270 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.คอนสวรรค์ อ.จัตุรัส และ อ.เมืองฯ รวม 9 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 101 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

มหาสารคาม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.กันทรวิชัย อ.โกสุมพิสัย และ อ.เชียงยืน รวม 19 ตำบล 123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เขมราฐ อ.โพธิ์ไทร อ.นาตาล อ.โขงเจียม อ.เมืองฯ และ อ.สว่างวีระวงศ์ รวม 9 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 352 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ภาคตะวันออก รวม 1 จังหวัด 5 อำเภอ 7 ตำบล 33 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 982 ครัวเรือน คือ ปราจีนบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ประจันตคาม อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.นาดี และ อ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 33 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 982 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ภาคกลาง รวม 1 จังหวัด 6 อำเภอ 69 ตำบล 328 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,006 ครัวเรือน คือ พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 69 ตำบล 328 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,006 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย

รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิกยกสูง รถตักล้อยางอเนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิกแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด