นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจนิด้าโพลกรณีคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3 ว่าจะสนับสนุนให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นอันดับ 1 และนายณัฐพงษ์ มาเป็นอันดับ 3 มีนัยอะไรหรือไม่ว่า เรื่องของผลโพลเป็นเรื่องปกติ และเรารับรู้เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และเดินหน้าทำงานในพื้นที่ต่อ ซึ่งคิดว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือเสียกำลังใจใดๆ และบริบททางการเมืองที่ผ่านมามีทั้งขึ้นทั้งลง รวมถึงมีสำนักไหนเป็นคนสำรวจ เชื่อว่าวิธีการเดียวที่จะทำให้คะแนนนิยมเรามั่นคงยิ่งขึ้น ดีวันดีคืนไปถึงการเลือกตั้งปี 2570 คือทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่
ส่วนการอภิปรายของฝ่ายค้านในสภาฯ โดยเฉพาะเรื่องเมียนมา ส่งผลต่อคะแนนนิยมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน การที่พรรคชี้แจงกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ทำความเข้าใจ รวมถึงการทำงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิดประชาชนเป็นส่วนสำคัญมากกว่า
ปัจจัยที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลงวัดจากอะไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดการยุบพรรคที่ผ่านมา ต้องยอมรับตามข้อเท็จจริงว่าหลายพื้นที่ที่ตนเองลงไปดู ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง หรือการลงพื้นที่อย่างแข็งขัน ชาวบ้านยังไม่รับทราบข่าวสาร บางคนยังไม่ทราบว่าตนเองกลายมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนแล้ว ซึ่งบางทีชาวบ้านไม่ติดตามข่าวสารขนาดนั้น เพราะฉะนั้นผลโพลที่ออกมาแล้วถ้าเกิดสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาของเรา ตอนนี้คือการเข้าหาประชาชน และทำงานในพื้นที่เพื่อให้รับทราบข่าวสารอย่างทั่วถึง
เมื่อถามว่า ความนิยมมาจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ด้วยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น คิดว่าตนเองพร้อมเดินหน้าทำงานต่อ และพิสูจน์การทำงานต่อจากนี้อีก 2 ปีกว่า และเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนจะได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นได้ต้องยืนยันว่าเราคงไม่ได้คาดหวังว่าประชาชนจะมาด้วยกับเรา ถ้าเรายังไม่มีผลงาน ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องสื่อสารต่อลูกพรรคทุกคน คือการเดินหน้าทำงาน และไม่ทิ้งพื้นที่แน่นอน
ส่วนสัปดาห์หน้ามีการโปรดเกล้าฯ ผู้นำฝ่ายค้าน นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องของผู้นำฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างแข็งขันเช่นเดิม คือภารกิจในสภาฯ แต่ตนเองจะขอใช้เวลาส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญในการลงพื้นที่พบพ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จะพยามจัดเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน และจะไปสัญจรในภูมิภาคต่างๆ และไม่ทิ้งการทำหน้าที่ในสภาฯ การอภิปรายงบประมาณ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังคงต้องเข้าไปมีส่วนร่วมเหมือนเดิม
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลไว้หลายด้าน แต่ตัวข้อมูลอาจจะยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ยืนยันว่ามีหลายกรณีที่เรารวบรวมเข้ามาแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะยื่นญัตติประมาณช่วงต้นปีหน้า ภายในไตรมาสแรก ซึ่งมีหลายเรื่องและนโยบายต่างๆ ด้วย แต่อันที่น่าสนใจคือการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติ ได้มีการหารือภายในพรรค ซึ่งอยู่ระหว่างการขอข้อสรุปจากที่ประชุม สส. และมีความเห็นได้ว่าอาจจะยื่นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นไปได้