xs
xsm
sm
md
lg

"อ.เจษฎา”ยันน้ำทะเลอ่าวไทยลดมาก เป็นแค่น้ำขึ้น-น้ำลง ไม่ใช่สึนามิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "น้ำทะเลอ่าวไทยลดมาก เป็นแค่น้ำขึ้น-น้ำลงครับ ไม่ใช่สึนามิ"

ช่วงนี้เหมือนจะมีข่าวลือเรื่องภัยพิบัติกันเข้ามาเยอะนะครับ วันก่อนก็มีเรื่องที่หอยและปลิงทะเล ขึ้นมาตายบนชายหาด จ.สตูล เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจารย์ธรณ์ จาก ม.เกษตร ได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นผลจากมรสุมทำให้มีพายุฝนและมีน้ำจืดไหลลงทะเลเยอะ สัตว์น้ำเลยตาย ไม่ใช่เหตุเภทภัยอะไร (ดูโพสต์ https://www.facebook.com/photo?fbid=1076079740543504&set=a.212820236869463 )

รวมถึงเรื่องที่มีเสียงดังสนั่นท้องฟ้าในหลายจังหวัดภาคใต้ ทั้งที่ไม่มีรายงานเครื่องบินความเร็วสูงเกินเสียง หรือเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเกิดจากมี "ดาวตกชนิดระเบิด (bolide)" เกิดขึ้นในเวลากลางวัน เลยไม่มีแสงสว่างให้เห็นและทำให้ได้ยินแต่เสียง ซึ่งก็ไม่ใช่เหตุเภทภัยอะไรเช่นกัน (ดูโพสต์ https://www.facebook.com/photo?fbid=1074288287389316&set=a.212820236869463)

ล่าสุด ก็มีแฟนเพจถามมาด้วยว่า "เมื่อสองสามวันก่อน มีข่าวน้ำทะเลลดลงมากที่ จ. สุราษ สตูล พังงา เลยสงสัยครับ ประกอบกับก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าภูเขาไฟใต้น้ำเกิดระเบิดในทะเลญี่ปุ่น ข่าวบางกระแสก็บอกว่ามีผลให้เปลือกโลกแยกมากขี้นและส่งผลมายังประเทศไทยด้วย น้ำทะเลในไทยเลยถูกดูดลงไปในรอยแยกของเปลือกโลก รบกวนท่านอาจารย์ช่วยอธิบายปรากฎการณ์นี้ให้ทราบด้วยนะครับ"

คือ มันไม่ได้มีอะไรมากเลยครับ ที่มีการแชร์คลิปแชร์ภาพกัน ว่าหลายจังหวัดทางภาคใต้มีน้ำทะเลลดมาก จริงๆ ก็แค่น้ำลดจาก "ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง" แค่นั้นแหละครับ ไม่ใช่จะมีแผ่นดินแยก มีคลื่นยักษ์สึนามิเข้าไทย อะไรอย่างที่กลัวกัน ..

. และถ้ามีน้ำทะเลลดฮวบ อันเนื่องจากการมุดตัวของเปลือกโลกใต้ทะเล คลื่นสึนามิจะเกิดตามมาในเวลาอันสั้น แค่ 1-2 ชั่วโมงครับ (ตามระยะทาง) ไม่ใช่ผ่านไป 2-3 วันค่อยเกิดอย่างที่กลัวกัน

แถมถ้าโยงไปที่ภูเขาไฟใต้น้ำที่ประเทศญี่ปุ่นนี่ ระยะทางมันห่างไกลออกไปกว่า 4 พันกิโลเมตรครับ ถึงมีแผ่นดินไหวใต้ทะเลแถบญี่ปุ่น (หรือฟิลิปปินส์) จนเกิดสึนามิขึ้น ก็ส่งผลกระทบแต่ไทยน้อยมากๆ กว่าคลื่นจะมาถึงประเทศไทยเรา ก็เหลือสูงแค่ไม่กี่เซนติเมตรแล้ว

สำหรับกรณีน้ำลดที่ภาคใต้นั้น ก็ไม่ได้แปลกอะไร แค่คนเอารูปถ่าย เอาคลิปมาบิดเบือน ปั่นกระแสกันให้หวาดกลัวไปเอง

โดยเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลาแจ้งว่า กรณีที่มีประชาชนแชร์กันว่อนเน็ตว่า เหตุการณ์น้ำลงในทะเลสาบสงขลา จนสังเกตเห็นสันดอนดินหลายจุด อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยสึนามิ จนชาวสงขลาแตกตื่น ลือกันไปต่าง ๆ นานานั้น....

... ทาง ดร.กมล พรหมสาขา ณ สกลนคร ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ซึ่งระดับน้ำทะเลจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาในรอบวัน เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “น้ำขึ้น น้ำลง (tide)”

น้ำขึ้นน้ำลง เกิดจากผลของแรงไทดัล (tidal force) ซึ่งเป็นแรงที่เกิดขึ้นจากแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูดระหว่างโลกและดวงจันทร์ ... การที่โลกหมุนรอบตัวเอง ฝั่งที่หันหน้าเข้าหาดวงจันทร์ก็จะถูกอิทธิพลแรงดึงดูดจากดวงจันทร์ ทำให้น้ำในมหาสมุทรไหลเข้ามารวมกันในบริเวณนั้น นั่นก็คือ ปรากฏการณ์ "น้ำขึ้น" และบริเวณรอบข้างระดับน้ำในมหาสมุทรก็จะลดลง หรือที่เราเรียกว่า "น้ำลง"

น้ำขึ้นน้ำลงเกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ถึงแม้ว่าดาวอาทิตย์จะมีมวล 27 ล้านเท่าของดวงจันทร์ แต่ดวงอาทิตย์ อยู่ห่างจากโลก 93 ล้านไมล์ ส่วนดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลกนั้น อยู่ห่างจากโลกเพียง 240,000 ไมล์ ดังนั้น ดวงจันทร์ จึงส่งแรงดึงดูดมายังโลกมากกว่าดวงอาทิตย์ และน้ำที่เกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์

ด้านผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำที่ 1 สงขลา สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 8 ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ทะเลสาบสงขลาเป็นทะเลน้ำกร่อย มีลักษณะร่องน้ำที่ตื้นเขิน จึงทำให้เมื่อเกิดปรากฏการณ์น้ำลง จะสังเกตเห็นสันดอนดินชัดเจนในหลายพื้นที่

อย่างไรก็ตาม จังหวัดสงขลาขอยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลงตามธรรมชาติเท่านั้น สถานการณ์ทั่วไปยังปกติดี ยืนยันไม่เกี่ยวสึนามิ

“ย้ำ!! อ่าวไทยไม่มีสึนามิ วอนประชาชนอย่าแชร์ข้อมูลบิดเบือน ที่สร้างความเข้าใจผิดเป็นเหตุให้เกิดความตื่นตระหนก และขอให้ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด”..