พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า แก้รัฐธรรมนูญไป ขาก็สั่นไป
1.ทุกวันนี้ประชาชนรากหญ้ากำลังจนตรอก จากปัญหาเศรษฐกิจที่ทับถมกันลงมาในทุกๆด้าน เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลของคุณทักษิณ ยังไม่เคยลงมาแก้ไขปัญหาอะไรให้ประชาชนเลย นายกคนแรก ก็เอาแต่เที่ยวต่างประเทศ เก็บเงินรวมไว้ทำเงินดิจิตอล งบลงทุนของรัฐจึงชลอตัวไปเรื่อยๆ คนก็จนลง ตามไปด้วย นายกคนที่สองก็เอาแต่ทำมินิฮาร์ทไม่ยอมพูดจา ไม่ยอมคิดอะไร รอฟังแต่พ่อคนเดียว ปล่อยให้คนจน ยิ่งจนตรอกมากขึ้น มองอนาคตไม่เห็นเลย
2.สิ่งที่นักการเมืองคิดอยู่เสมอ คือ เมื่อคนจนมากขึ้น ไม่มีจะกินก็ต้องทำทุกทางที่จะได้เงินมา แม้จะรู้ว่าไม่ดี หรือ ขายชาติก็จำเป็นต้องทำ ความสนใจต่อปัญหาส่วนร่วมของชาติ ของคนกลุ่มนี้ก็กำลังจะหมดไป นักการเมืองสีเทาก็สบายตัว แต่ลืมคิดไปว่า ถึงจะสบาย แต่ก็ยัง สบายไม่หมดทั้งตัวเพราะ “กติกาที่เข็มงวดของรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงยังคงอยู่“ และคนยากจนเหล่านั้นที่ เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาก็ยังเป็น
“คนไทย“ อยู่ เงินหมื่นบาทที่จะแจกนั้น พวกเขาก็จะรู้ได้ในที่สุดว่า เป็นเงินของพวกเขาเอง แต่พวกเขากลับต้องมาชดใช้ดอกเบี้ยเงินก้อนนี้อย่างไม่รู้จบ ทั้ง 2 เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่นักการเมืองหลายสิบคนไม่เคยจำ
3.มาถึงวันนี้ รัฐบาลจึงควรทุ่มเททุกนาทีให้กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อคนทั้งประเทศ แต่ดันไปทุ่มเทให้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อคนหยิบมือเดียว และก็ทำไปทั้งๆที่รู้ว่า จะสำเร็จได้ยาก
ในทางกลับกัน อาจดึงพรรคร่วมรัฐบาลลงนรกตามไปด้วย ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไป ว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนรู้สึกตัวบ้าง เพราะไม่ว่าจะแก้ไขกันเลยเถิดไปถึงไหนก็ตาม แต่การแก้ไขในลักษณะนี้ก็ “ผิดรัฐธรรมนูญ” แน่นอน
4.ผมเชื่อว่า “การหลงในอำนาจ” ว่าไม่มีใครกล้าคัดค้านนั้น น่าจะเป็นแรงจูงใจให้รัฐบาล กล้าทำลายหลักการลงในหลายเรื่อง เช่น การกักงบประมาณ เอามาทำเงินดิจิทัล การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ที่จะตกอยู่แค่แรงงานต่างด้าวมากกว่าแรงงานไทย ไม่คำนึงถึงภาระซ้ำเติมของเจ้าของกิจการต้องแบกรับ ฯลฯ การคิดย้าย
“ ผู้ว่าแบงก์ชาติ “ นอกจากนี้ ยังกล้าเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ซ้ำรอยเดิมอีกด้วย
ช่างกล้าท้าทายสังคมยิ่งนัก เอาเถอะครับ ถ้ากล้าทำก็อย่ายืนขาสั่น นะครับ
พลโท นันทเดช / 24 กันย์’ 67