xs
xsm
sm
md
lg

พรรคประชาชนยันชงแก้ รธน.ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง ที่ทั้งพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นร่างดังกล่าว เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา โดยย้ำว่า ขณะนี้ปัญหาจริยธรรมที่ถูกตีความขยายไปเกินกว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หรือสิ่งที่ประชาชนคาดหวังอยากให้เป็น เช่น เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ทุกพรรคมองเห็นตรงกันว่ายอมรับไม่ได้ แต่เมื่อมีประเด็นรายละเอียดต่างๆ กลับเป็นการเปิดช่องให้องค์กรอิสระพิจารณาตีความขยายเกินกว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการพัฒนาระบอบสถาบันการเมือง และการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นหากมีการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว ไม่แก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกฎหมาย ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ก็จะไม่สมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์นี้ประธานรัฐสภาจะนัดหมายวิปสามฝ่าย เพื่อกำหนดกรอบเวลา ในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาชนเสนอไว้ทั้งหมด 4 ร่าง เนื้อหาสาระเชิงหลักการแตกต่างกัน แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน น่าจะพิจารณารวมกันได้แต่แยกลงมติรายฉบับ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคประชาชนอยากได้เวลาเต็มที่ในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราเพราะเป็นเรื่องสำคัญ หากใช้เวลาเพียง 1 วัน ต้องรอดูว่าจะให้แล้วเสร็จเมื่อใด แต่หากตึงไปอาจจะขอเป็น 2 วัน ซึ่งหากใช้เวลาเต็มที่พิจารณาสาระรายละเอียด ได้มากพอสมควรซึ่งจะได้ประโยชน์มากกว่า

เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องมาตรฐานจริยธรรม เป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการเมืองและพวกพ้อง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ร่างของพรรคประชาชนเสนอนั้น สมาชิกที่เข้าชื่อไม่ใช่คนที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับคดีจริยธรรมคือ สส. 44 คน อดีตพรรคก้าวไกลไม่ได้ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เพราะมีเจตจำนงที่จะนำไปสู่การทบทวนรัฐธรรมนูญในหมวดนี้อย่างแท้จริง ไม่ได้ต้องการเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า การแก้ไขในหมวดจริยธรรมและหมวดที่เกี่ยวข้องไม่ได้เพื่อประโยชน์ของใครแต่เพื่อประโยชน์ความมั่นคงทางสถาบันการเมือง เพราะระบบการตรวจสอบที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบจากประชาชนที่เป็นผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง แม้แต่กรณีที่บุคคลจะหลงผิดไป แต่ละพรรคการเมืองก็มีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้น เช่นที่อดีตพรรคก้าวไกลได้ดำเนินการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อความมั่นคงและความเหมาะสมทางสถาบันการเมืองและประโยชน์ต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม จะอาศัยเวทีรัฐสภารวบรวมสิ่งที่ประชาชนสงสัยมาอธิบายชี้แจงข้อสงสัยว่าความต้องการแก้ไขหลักใหญ่ใจความเพื่อต้องการทบทวนรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่เวลาของการแก้ทั้งฉบับเคลื่อนจากเวลาเดิมที่ตั้งใจไว้ เช่น พ.ร.บ.ประชามติที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาก็ล่าช้าในเชิงกระบวนการ และการทำประชามติครั้งแรกก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 หรือไม่ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยื่นแก้ไข รายมาตรา ซึ่งจริยธรรมเป็นแค่ส่วนหนึ่งยังมีเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและโครงสร้างของสิ่งที่ตกค้างจาก คำสั่งคสช. ที่ต้องการทบทวน และมีอีกหลายประเด็นอยากให้ประชาชนติดตามว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นไปเพื่อคงสถาบันการเมืองที่เหมาะสมในระบอบประชาธิปไตยไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อใครคนใดคนหนึ่งแน่นอน

นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการหารือกับสมาชิกวุฒิสภาอย่างไม่เป็นทางการเพื่อขอเสียงสนับสนุนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องใช้เสียงสนับสนุน ซึ่ง สว.ชุดนี้ มีความหลากหลายมาก ต่างจาก สว. ชุดก่อน จึงอาจไม่สามารถคุยทุกกลุ่มหรือทุกคนได้ แต่สิ่งสำคัญที่ทำตอนนี้คือทำความเข้าใจต่อสาธารณะชน ที่เป็นการยืนยันว่าการแก้ไขไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เพื่อคงระบอบพรรคการเมืองที่เป็นหนึ่งในสถาบันหลัก ทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวุฒิสภาที่มาจากประชาชนต้องมีความเข้าใจเรื่องการเมือง และการตัดสินใจจะเป็นอิสระไม่ใช่การกดปุ่มชี้แบบใดแบบหนึ่ง จึงยังมั่นใจว่าถ้าเห็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด ได้พิจารณาฟังเหตุและผลที่สมาชิกแต่ละคนนำเสนอ จะได้เสียงสนับสนุน1ใน3จาก สว.อย่างแน่นอน