xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท”เผยเหตุทำไมไทยไล่สิงคโปร์ไม่ทัน ชี้ผู้นำสิงคโปร์มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า ทำไมไทยไล่สิงคโปร์ไม่ทัน

ถ้าใครไดฟังหรือได้อ่านการแสดงวิสัยทัศน์การบริหารของนายลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence wong) นายกรัฐมนตรี คนที่ 4 ของสิงคโปร์ ที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ถึง New Singapore Dream “ความฝันใหม่ของสิงคโปร์” ที่จะเป็น “อนาคตใหม่ของชาวสิงคโปร์” โดยการ Reset ประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้ชาวสิงคโปร์ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันอย่างยุติธรรม ที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งด้าน สังคม เศรษฐกิจ และการศึกษา โดยจะมีการออกแบบนโยบาย ที่สามารถรองรับความท้าทายในโลกปัจจุบัน และโลกในอนาคตได้

ผู้นำของประเทศสิงคโปร์ กว่าจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องเรียนรู้งาน ไต่เต้าทางการเมือง ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เป็นรองนายกรัฐมนตรีจนถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นที่มั่นใจว่า สามารถนำพาประเทศ และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งชาติได้

ซึ่งผิดกับประเทศไทย คนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาเลย ไม่ได้สั่งสมประสบการณ์ และพิสูจน์ความรู้ความสามารถให้ประชาชนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน แต่เป็นการผลักดันของผู้มีอำนาจทางการเมือง ต้องการถ่ายทอดตำแหน่งทางการเมืองให้กับทายาททางการเมือง หรือที่เรียกกันว่าเป็นดีเอ็นเอ หรือผู้สืบสันดานทางตำแหน่ง จึงทำให้ประเทศได้ผู้นำทางการเมือง ที่อ่อนด้อยประสบการณ์ และขาดวิสัยทัศน์ไม่สามารถแสดงความสามารถ หรือเป็นตัวของตัวเองได้

อย่าว่าแต่จะให้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทยเลย แม้แต่การแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ต้องอ่านสคริปทุกตัวอักษร และไม่สามารถที่จะแสดงภูมิรู้ในการบริหารประเทศได้เลย ต้องตกอยู่ภายใต้การกำกับชี้นำของพ่อ และส่งสมุนมือซ้ายมือขวามาประกบ เป็นพี่เลี้ยงช่วยทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เมื่อเราเปรียบเทียบประวัติผู้นำประเทศสิงคโปร์ ที่ได้แสดงวิสัยทัศน์เป็นที่ชื่นชมของคนทั่วโลก กับประวัติผู้นำของประเทศไทยที่ ได้รับการผลักดันจากผู้เป็นพ่อ ใช้ประเทศเป็นที่ฝึกงานให้ลูก ซึ่งต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเทศไทยจากก้าวทันประเทศสิงคโปร์ได้อย่างไร สงสารประเทศไทยของเราจริงๆ