นายชยพล สท้อนดี ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร แถลงความคืบหน้าการติดตามกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่ม ว่า ภายหลังมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว กองทัพเรือได้ย้ำมาตลอดว่า ต้องมีการกู้เรือเพื่อรวมหลักฐาน ก่อนจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดแก่ประชาชน ซึ่งในขณะนั้น กองทัพเรือได้มีการประมูลบริษัทที่จะมากู้เรือ วงเงิน 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังถูกเปิดหลักฐานว่าการประมูลการกู้เรือนั้นทำไม่ถูกต้อง กองทัพเรือก็ได้เปลี่ยนท่าที ล้มเลิกการประมูล และยอมให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยกู้เรือ แต่กลายเป็นว่าไม่มีการกู้เรือเลยในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่บอกว่าเป็นเรื่องสำคัญ
นายชยพล กล่าวว่า กมธ.ทหารชุดปัจจุบันได้ติดตามและขอหลักฐานมาโดยตลอด ซึ่งขอไป 13 อย่าง แต่ได้มาแค่เพียง 1 อย่างเท่านั้น คือข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างการซื้อเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งไม่ได้มีสาระสำคัญ อีกทั้งไม่ได้รับการตอบกลับอะไรจากกองทัพเรือเลย ทั้งนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราสูญเสียเรือรบมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ชีวิตกำลังพล 20 นาย สูญหาย 5 นาย แต่ผู้ใหญ่ในกองทัพเรือที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ ก็ยังไม่ยอมรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเอง มีเพียงแต่คำสัญญาที่ไม่เคยเป็นจริง ตนจึงขอแสดงความกังวลในเรื่องนี้ และขอถามว่าจะมีการรับผิดชอบอะไรหรือไม่ หรือเป็นความพยายามของกองทัพเรือที่จะยืดเวลารอให้ตัวเองลอยลำ พ้นการรับผิดชอบ จึงหวังว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ จะให้กองทัพเรือเปิดเผยหลักฐานที่สำคัญมากกว่านี้
ด้านนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ในฐานะโฆษก กมธ.การทหาร กล่าวว่า เรื่องนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย ทั้งการให้เรือรบออกทำหน้าที่สักการะสิ่งสักสิทธิ์ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพเรือ รวมถึงการสั่งให้เรือรบที่กำลังจะล่มกลับสัตหีบ ทั้งที่ต้องเดินทางอีกครึ่งวัน รวมถึงกระบวนการสอบสวนที่ยังไม่โปร่งใส ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าประหลาดมากว่าการสูญเสียทั้งหมดนี้ถูกปิดคดีทั้งที่ไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งความผิดทางวินัยและอาญา ดังนั้น จึงขอฝากไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส ถอดบทเรียน เพื่อปรับปรุงกองทัพเรือให้ดีขึ้น