นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่องแนวทางการเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ตอบกระทู้แทน ซึ่งได้มอบหมายต่อให้นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้มาตอบแทน
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่ผ่านมา นอกจากลงไปเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ยังรับฟังปัญหารวบรวมข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ส่งผ่านไปยังรัฐบาลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องที่รัฐบาลมีมาตรการยกเว้นค่าน้ำและค่าไฟในเดือนกันยายน และลดค่าน้ำค่าไฟ 30% ในเดือนตุลาคมนั้น แต่ประชาชนอยากได้ขั้นต่ำ 3 เดือนขึ้นไป จึงฝากไปยังรัฐบาลว่า เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่จะขยายกรอบตรงนี้ รวมถึงมาตรการส่งงบประมาณลงไปชดเชยให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขาดรายได้จากการจัดเก็บค่าน้ำประปาตรงนี้หรือไม่
นายณัฐพงษ์ ยังเสนอเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาค่าซ่อมบ้าน ที่รัฐบาลมีการจ่ายเงินสูงสุดถึง 230,000 บาท ถ้าประเมินว่าบ้านเสียหายเกิน 70% และอีกส่วนจะจ่ายเงินชดเชยเยียวยา ถ้าท่วม 7-30 วัน จะจ่าย 5,000 บาท หรือถ้าท่วม 60 วันขึ้นไป จะจ่าย 9,000 บาท ซึ่งปัญหาเงินก้อนนี้มีความยุ่งยากซับซ้อน และมีกรอบระยะเวลาภายใน 90 วัน จึงอยากเร่งรัดให้รัฐบาลจ่ายเงินดังกล่าวให้เร็วขึ้น พร้อมเสนอว่า ถ้าพบว่าบ้านหลังใดอยู่ในพื้นที่เหตุอุทกภัย ให้จ่ายทันที 10,000 บาทก่อน จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจความเสียหายทีหลังและจ่ายตามจริง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่ารัฐบาลสามารถพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจ่ายเงินเยียวยา โดยอาศัยแผนที่น้ำท่วมจาก GISTDA และข้อมูลทะเบียนบ้าน เพื่อให้ประชาชนกดรับสิทธิ์เงินเยียวยา 10,000 บาททันทีในแอปฯ ทางรัฐได้ และขอให้รัฐบาลเจรจาธนาคารทุกภาคส่วนให้พักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ยให้กับประชาชน และเสนอให้ขยายกรอบวงเงินการเยียวยาแก่เกษตรกร และรัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เข้าไปฟื้นฟูทรัพย์สินต่างๆ ในพื้นที่ และให้ท้องถิ่นสามารถจัดทำนโยบายจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนโดยตรงอีกทางหนึ่ง นอกจากต้องรอรับเงินจากรัฐบาลส่วนกลางเท่านั้น และเสนอให้มีมาตรการลดหย่อนภาษี จากการท่องเที่ยวเมืองน้ำลด
ทั้งนี้ จากการที่รัฐบาลมีมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองนำไปลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะออกมาตรการท่องเที่ยวเมืองน้ำลด หลังจากที่ อ.แม่สาย ได้ฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลับคืนมา และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไปจับจ่ายใช้สอยว่าหากท่องเที่ยวเมืองน้ำลด สามารถลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บาท ถือเป็นมาตรการที่น่าสนใจ
ด้านนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า เรื่องมาตรการค่าน้ำค่าไฟจะมีการปรับตามสถานการณ์ความเป็นจริงได้ ถ้าหากหน้างานดูแล้ว ยังมีความรุนแรงและประชาชนยังฟื้นตัวไม่ได้ ก็สามารถปรับมาตรการต่อๆไปได้ ขอให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลจะแบ่งเบาภาระประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนน้ำที่จะต้องใช้ในการบริโภคและใช้ในการชำระล้างโคลนดินต่างๆ ทางการประปาส่วนภูมิภาคได้ลงไปในพื้นที่ เพื่อผลิตน้ำเพื่อบริโภคให้ประชาชนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย และบริการน้ำที่ใช้ชำระโคลนเช่นกัน
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า เรามีความคิดเห็นตรงกันว่าความช่วยเหลือทุกรูปแบบและทุกด้าน คือสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงรวมถึงในอนาคตไม่ว่าจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ต่อจากนี้เราจะมีมาตรการตัวอื่นมารองรับสนับสนุน แบ่งเบาภาระของประชาชนให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณเพิ่มขึ้น เพื่อไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้หรือไม่นั้น เบื้องต้นแต่ละจังหวัดจะมีเงินสำรองการใช้จ่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน 20 ล้านบาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถดำเนินการได้ทันท่วงที จึงอยากให้สบายใจได้ว่ารัฐบาลทำอย่างเต็มที่และทำอย่างเร็วที่สุด ซึ่งกระบวนการจ่ายเงินเยียวยาในกรอบ 90 วัน ยืนยันว่าจะทำให้ได้เร็วกว่านั้นแน่นอน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้ว เมื่อได้ตรวจสอบสิทธิ์อย่างถูกต้อง เงินก็สามารถถึงมือประชาชนได้ทันที ซึ่งนายกรัฐมนตรีกังวลในเรื่องนี้ อยากให้การเยียวยาประชาชนเป็นไปโดยทันการและให้ ประชาชนพึงพอใจอย่างสูงสุดเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ขณะนี้กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันทางรัฐ ให้เป็นซูเปอร์แอป และการที่ให้ประชาชนลงทะเบียนไม่ใช่เพียงเพื่อประโยชน์ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว แต่สามารถใช้ข้อมูลที่มีอยู่นั้นมาช่วยเหลือประชาชนอย่างเร็วที่สุด ถือเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจที่อยากให้ฐานข้อมูลประชากรอยู่ในส่วนนี้ได้ครบ 100% คิดว่าสามารถพัฒนาระบบร่วมกันให้ใช้ประโยชน์ได้ในสถานการณ์นี้ด้วย
ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยจะมีการสนับสนุนงบประมาณและปัจจัยในการผลิตลงไปถึงประชาชน ในการสนับสนุนพันธุ์พืชไร่พืชสวน จากเหตุน้ำท่วมใหญ่บางครอบครัวอาจจะหมดตัวและไม่เหลืออะไร มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐต้องเข้าไปสนับสนุน และยังมีอีกหลายมาตรการจากหลายกระทรวง