สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม รายงานเมื่อช่วงเย็น วานนี้ (15 ก.ย.67) ว่า เทศบาลเมืองนครพนม ติดตามสถานการณ์น้ำโขงตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการตรวจเช็กระดับน้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากน้ำโขงขึ้นสูงถึง 12.50 เมตร จะปิดประตูระบายน้ำทุกจุด ปัจจุบันน้ำโขงอยู่ที่ 11.38 เมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤต 62 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำโขงล้นตลิ่ง ไหลบ่าเข้าท่วมในเขตเมือง ย่านเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด โดยจะมีการสูบน้ำออกจากพื้นที่ด้วยเครื่องสูบน้ำเครื่องยนต์ดีเซลขนาดท่อเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้ว จำนวน 6 เครื่อง ซึ่งได้ติดตั้งไว้พร้อมแล้ว และยังมีเครื่องสูบน้ำสำรองอีก 2 เครื่อง นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเครื่องจักรกล รถบรรทุก รถน้ำ รถกระเช้า รถตักหน้าขุดหลัง เรือท้องแบน รวมทั้งกระสอบทรายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งได้กำหนดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวไว้ที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแแพทย์และสาธารณสุข หรือ EOC เตรียมพร้อมรับมือน้ำโขงล้นตลิ่ง ให้จัดตั้งศูนย์พักพิงทุกอำเภอ ร่วมกับนายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจข้อมูลกลุ่มเปราะบาง (ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง โรคเรื้อรัง ฟอกไต และผู้พิการ) จัดระบบ Mapping เพื่อเคลื่อนย้าย ส่งต่อ ให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมความพร้อมบริการอุบัติเหตุฉุกเฉิน สำรองยาและเวชภัณฑ์ โดยให้มีการประชุม EOC ทุกวัน
ขณะที่เสียงจากทหารเรือ รายงานว่า ประชาชนริมฝั่งน้ำโขง น้ำเข้าบ้านแล้ว สถานีเรือธาตุพนม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม เร่งขนย้ายสิ่งของช่วยประชาชน น.ท.เตชธร ฉิมพาลี หน.สน.เรือธาตุพนม จัดกำลังพลจำนวน 5 นาย ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำโขงเอ่อล้น พร้อมมอบยาและเวชภัณฑ์ให้กับประชาชนไว้สำหรับยามเจ็บป่วย จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ บ.หนาด ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม และ พื้นที่ บ.ดอนนางหงส์ ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
ด้านกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดนครพนม พล.ร.ต.ทรงฤทธิ์ ฉัตรเงิน ผบ.กลน.กร. ปล่อยแถวกำลังพล 40 นาย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน 8 ลำ รถยนต์บรรทุกเรือท้องแบน จำนวน 2 คัน รถยนต์บรรทุกเครื่องยนต์ติดท้าย และสัมภาระ จำนวน 1 คัน และรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ จำนวน 1 คัน เพื่อลงพื้นที่ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางน้ำในพื้นที่ จ.นครพนม