เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 เป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ทางแอปพลิเคชันทางรัฐ ของกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 33 ล้านราย จากเดิมจะเปิดให้มีการลงทะเบียน สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผ่าน 3 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567 แต่มีการประกาศเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อรอให้กระบวนการจ่ายเงินในเฟสแรก สำหรับกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ จำนวน 14.5 ล้านคน เสร็จสิ้นก่อน
ส่วนการประกาศผลผู้มีสิทธิ์รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน ที่กำหนดไว้ในวันที่ 22 กันยายน 2567 นี้ก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเช่นกัน เพื่อรอการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเปราะบาง แล้วจึงทำการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ลงทะเบียนเข้ามา 33 ล้านราย ว่าตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ รวมทั้งต้องตัดกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการ และผู้พิการ ที่ได้รับเงินในเฟสแรกออกไปด้วย
โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าระบบพร้อมเพย์ ตามลำดับดังนี้
วันที่ 25 กันยายน 2567 โอนเข้าบัญชีผู้พิการ 2.6 ล้านคน และบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขประจำตัวประชาชนลงท้าย 0
วันที่ 26 กันยายน 2567 โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขประจำตัวประชาชนลงท้าย 1-3
วันที่ 27 กันยายน 2567 โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขประจำตัวประชาชนลงท้าย 4-7 และ
วันที่ 28 กันยายน 2567 โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขประจำตัวประชาชนลงท้าย 8-9
ส่วนของการจ่ายเงินให้แก่ประชาชนที่ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปฯ ทางรัฐ จะถือเป็นเฟส 2 ของโครงการ ซึ่งจะมีการดำเนินการต่ออย่างแน่นอน โดยเบื้องต้นได้เตรียมงบประมาณปี 2568 ไว้แล้ว 1.8 แสนล้านบาท และต้องจัดสรรเพิ่มเติมอีกบางส่วน ทั้งนี้วิธีการแจกเงินในเฟส 2 นั้นอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะจ่ายแบบทีเดียว 10,000 บาท หรือจะแบ่งจ่ายเงินสด และดิจิทัลครั้งละ 5,000 บาท