นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า การสู้กับคนเหลิงอำนาจนั้นง่ายที่สุด เพราะถึงจุดหนึ่งประชาชนจะไม่กลัวพวกบ้าแสดงอำนาจเอาแต่ได้ ดังนั้นอยากดูแคลนประชาชนเคลื่อนไหวปลุกไม่ติด มีคนมาร่วมชุมนุมน้อยก็ปรามาสกันให้เต็มที่
นายจตุพร กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนที่ผ่านมาแต่ละยุคนั้น ล้วนใช้เวลาบ่มเพาะพลังให้เข้มข้นเพื่อรอจุดเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งสิ้น โดยมีพลังมาร่วมจากพัน เป็นหมื่น เป็นแสนและหลายแสนประชาชนลุกฮือขึ้นด้วยแรงอัดอั้นจากการกระทำของพวกเหลิงอำนาจทั้งสิ้น
พร้อมยกกรณีพลังประชาชนเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 จุดเปลี่ยนเริ่มจากการลบชื่อ 9 นักศึกษารามออกจากมหาวิทยาลัย แล้วนำพาไปสู่การเรียกร้อง รธน. ส่วนการชุมนุมเมื่อปี 2535 มาจากการอดอาหารของ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร แล้ว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เข้าร่วมหนุนจึงเป็นจุดเปลี่ยนและเกิดการชุมนุมของชนชั้นกลางที่เรียกว่า ม็อบมือถือ จนได้ รธน. 2540 ดังนั้นพวกเหลิงอำนาจอยากยิ้มเยาะพลังประชาชนก็แสดงออกมาให้เต็มที่ เพราะสักวันจะรู้สึกและเตรียมตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่ตามมา
ส่วนปัญหาประชาชนยื่นคำร้องตรวจสอบคุณสมบัติ ครม.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้รัฐบาลพะวักพะวง หากรัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนใช้สิทธิตรวจสอบแล้ว ควรแก้ รธน.จำกัดสิทธิประชาชน ซึ่งไม่เห็นยากอะไรเลย อีกอย่างถ้าไม่แก้ รธน.แล้ว ต้องรับคำร้องของประชาชนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบตาม รธน.กำหนดสิทธิให้กระทำได้
“การยื่นคำร้อง แม้มีเรื่องตรวจสอบมากเป็น 100 เรื่องก็ตาม แต่ในนั้น อาจมีทีเด็ดสักเรื่องที่เล่นงานรัฐบาลและ รมต.ได้ แค่นี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว”
นายจตุพร กล่าวถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตว่า ขณะนี้กลับมาแจกเป็นเงินสด แสดงว่าโครงการดิจิทัลทำไม่ได้ ไปไม่เป็นตามการหาเสียงไว้ อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังไม่มีความชัดเจนเด็ดขาด ได้แต่ผลิตคำโกหกไปวันๆ เพื่อสร้างโกหกใหม่ให้ลืมโกหกเก่า ส่วนคนไทยกลับหลงเชื่อการโกหกซ้ำๆ อยู่เรื่อยๆ และไม่วอแว ซึ่งผิดปกติ จึงต้องรอเวลาได้คลี่คลายให้รับรู้สถานการณ์ที่เป็นจริง
สำหรับการตั้งบ่อนคาสิโน 8 แห่งทั่วประเทศนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ในช่วงเวลาอนุญาต 30 ปี ประมาณรายได้เข้าประเทศเพียง 2.8 แสนล้านเท่านั้น เมื่อเทียบกับรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วสู้ไม่ได้เลย เพราะปี 2566 ไทยมีรายได้จากท่องเที่ยวมากถึง 1.8 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากนำมาเทียบกับรายได้บ่อนคาสิโนเป็นรายปีแล้วมีเพียง 9 พันกว่าล้าน เท่ากับบ่อนหนึ่งแห่งในหนึ่งปีทำรายได้ให้ประเทศแค่พันกว่าล้าน ดังนั้น การอ้างว่า ตั้งบ่อนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ประเทศจึงเป็นเพียงรายได้เล็กน้อยเท่านั้น แต่รัฐบาลจะทำให้ได้
"แล้วทำไปทำไม และยังจะเอาบ่อนคาสิโนให้ได้ จึงน่าสงสัยผลประโยนช์ส่วนบุคคลที่ซ่อนไว้ในความฉิบหายของประเทศ ดังนั้น สิ่งนี้จะเป็นชนวนหรือจุดเริ่มความขัดแย้งและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยพลังของประชาชน”
นายจตุพร กล่าวว่า อีกอย่างรัฐบาลนี้ต้องการปิดงานเจรจาผลประโยชน์ในเขตพื้นที่แหล่งพลังงานทับซ้อนใต้ทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมีผลประโยชน์ส่วนตัวหนุนอยู่เบื้องหลังการตกลงสมประโยชน์ระหว่างประเทศที่จะเกิดขึ้น ซึ่งประชาชนต้องติดตามอย่างถึงที่สุด เพราะเป็นเดิมพันระหว่างผลประโยชน์ประเทศกับการเอาแต่ได้ส่วนตัวของกลุ่มทุนพลังงาน โดยราคาพลังงานไทยก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
ส่วนแลนด์บริดจ์ ต้องจับตาให้มาก เพราะจะเกิดประเทศ 3 แสนไร่ซ้อนอยู่บนแผ่นดินประเทศไทย ถ้าโครงการนี้สร้างแค่ระบบทางด่วนเอื้อการขนส่งสินค้าจากอ่าวไทยไปฝั่งทะเลอันดามัน โดยไม่เกี่ยวข้องที่ดิน 3 แสนไร่ก็สร้างเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าประชาชนจะยอมให้ขายชาติย่อมช่วยไม่ได้ เพราะโครงการนี้หากประชาชนไม่หยุดยั้งแล้ว ประเทศจะถูกแทะจนไม่เหลืออะไรเลย
“วันนี้บ้านเมืองเป็นเรื่องใหญ่กว่าการเมือง ทั้งมาจากการเมืองแบบถือปืนยึดเอามา หรือใช้เงินซื้อมาย่อมไม่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญถ้าประชาชนไม่ยืนอย่างแข็งแรงแล้ว ประเทศเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดังนั้น ประชาชนต้องรักษาประเทศให้อยู่รอด ส่วนการเมืองจะทำลายตัวเองไปเอง”
พร้อมกล่าวถึงผลการตรวจสอบชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยหวังว่า ผลการตรวจสอบของแพทยสภาที่สอบสวนแพทย์ รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์นั้นขอให้จบลงในอีกสัปดาห์ต่อจากนี้ เพื่อกระบวนการอื่นจะได้ตั้งต้นเดินหน้าไปต่อ
“ถ้าถามถึงการป่วยจริงหรือไม่ ประชาชนคงเชื่อกันได้ยากมาก เพราะเห็นพฤติกรรมท้าทายแบบตำตา แล้วไม่มีใครทำอะไรได้เลย ดังนั้น จึงหวังว่า เรื่องนี้ควรจบลงก่อนรัฐบาลเริ่มตั้งบ่อนคาสิโน”
ประเทศไทยต้องมาก่อน