xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท”แซะ รบ.ปราบคอร์รัปชั่นไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน เหตุแสลงใจนายใหญ่?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า ปราบคอร์รัปชั่น ไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน เพราะแสลงใจนายใหญ่???

ผมได้เห็นนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง1 นางสาวแพทองธาร ชินวัตรแล้ว เป็นนโยบายเร่งด่วนในเรื่องเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ แต่จะตรงกับแนวความคิดที่นายทักษิณชินวัตรได้แสดงวิสัยทัศน์บนเวทีหรือไม่นั้น ก็สามารถเปรียบเทียบกันได้ว่า มีการนำการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลอุ๊งอิ๊งหรือไม่

การกำหนดแนวนโยบายเร่งด่วนของประเทศนั้น ไม่ใช่มีเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวยังมีนโยบายเร่งด่วนด้านสังคมและด้านการเมืองด้วย ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้กำหนดไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนทั้งที่มีความสำคัญมากต่ออนาคตของประเทศ

ผมอยากจะเสนอให้รัฐบาลนำนโยบายเด้านสังคม ขึ้นมาประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วน คือนโยบายการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเป็นมะเร็งร้ายของสังคม และประเทศไทยก็ประสบปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นข่าว ที่หน่วยงาน ป.ป.ช.และ ปปท.เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐรับเงินใต้โต๊ะจนเป็นข่าวไม่เว้นแต่เดือน รวมถึงการจัดลำดับความโปร่งใสของประเทศไทย อยู่ในลำดับรั้งท้ายของโลกอีกด้วย อยากให้รัฐบาลเห็นความสำคัญเรื่องนี้ และนำมาเป็นนโยบายเร่งด่วนมากกว่านโยบายทั่วไป หรือว่าประเด็นการทุจริตเป็นเรื่องแสลงใจของนักการเมืองผู้อำนาจบางคน ที่ถูกศาลฎีกาฯตัดสินจำคุกในข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นมาแล้ว จึงไม่ได้นำขึ้นมาเป็นนโยบายเร่งด่วน

ส่วนนโยบายเร่งด่วนด้านการเมือง อยากให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้ทำตามนโยบายหาเสียง หรือคำประกาศในบนเวทีปราศรัยว่า ถ้าหากได้เป็นรัฐบาลจากแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 1 ปี จนบัดนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมาแล้วหนึ่งปี มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จนมาถึงรัฐบาลอุ๊งอิ๊งเหลือระยะเวลาเพียง 3 ปี ถ้าหากรัฐบาลไม่นำเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นนโยบายเร่งด่วนอีก การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะไม่ประสบความสำเร็จ และรัฐบาลชุดนี้อาจจะฉวยโอกาสนำเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นตัวประกันในการบริหารประเทศให้ครบเทอม

ในฐานะที่เป็นนักการเมืองนอกสภา จะขอใช้สิทธิ์แสดงความคิดเห็นเสนอให้รัฐบาลชุดนี้ เห็นความสำคัญการแก้ปัญหาบ้านเมืองให้ครบทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด และมีความสำคัญในการกำหนดอนาคตของประเทศ ไปพร้อมพร้อมกับการแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน