“ธีระชัย”ซัดโครงการ รมต.คลัง ถ่ายเทประโยชน์ ปชช.ทั้งชาติไปให้เฉพาะกลุ่มเล็ก

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า โครงการรัฐมนตรีคลังถ่ายเทประโยชน์ของ ปชช.ทั้งชาติไปให้เฉพาะกลุ่มเล็ก

รูป 1 เป็นแผนผังอธิบายรายได้ของกองทุนวายุภักษ์ก่อนโครงการของรมว.คลัง

ไม่ว่ากองทุนมีรายได้เท่าไหร่ ก็ตกเป็นของผู้ลงทุนฝ่ายรัฐทั้งหมด

สมมติกองทุนมีรายได้ 2% ต่อปี

รายได้ที่จะตกเป็นของประชาชนทั้งชาติ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนจนและคนรวย คือ 2% ต่อปี

รูป 2 เป็นแผนผังอธิบายรายได้กองทุนวายุภักษ์หลังมีโครงการของรมว.คลัง

กองทุนมีรายได้เท่าไหร่ ก็ต้องแบ่งกันระหว่างผู้ลงทุนฝ่ายรัฐ (กลุ่ม ข) กับผู้ลงทุนประชาชน (กลุ่ม ก)

สมมติกองทุนมีรายได้ 2% ต่อปี รายได้ที่ตกเป็นของประชาชนทั้งชาติ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนจนและคนรวย จะเหลือศูนย์

เหตุผลเพราะ ผู้ลงทุนฝ่ายรัฐ (กลุ่ม ข) ต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ลงทุนประชาชน (กลุ่ม ก) กรณีที่กองทุนมีรายได้ต่ำกว่า 3% ต่อปีที่ประกันขั้นต่ำเอาไว้

ประชาชนที่ลงทุนส่วนตัว จะได้รายได้ขั้นต่ำ 3% ต่อปี

นักลงทุนต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินี จะได้รายได้ขั้นต่ำ 3% ต่อปี รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติที่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในไทยด้วย

ส่วนประชาชนทั้งชาติ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนจนและคนรวย นอกจากรายได้จะเหลือศูนย์แล้ว ยังต้องควักกระเป๋าชดเชยรายได้ให้แก่ผู้ลงทุนประชาชน (กลุ่ม ก)

ผู้ลงทุนฝ่ายรัฐ (กลุ่ม ข) จึงจะขาดทุน 1% ต่อปี

เทียบกับเดิมก่อนมีโครงการของรมว.คลัง กลุ่มนี้ เปลี่ยนจากมีรายได้ 2% ต่อปี เป็นขาดทุน 1% ต่อปี

รูป 3 เป็นแผนผังอธิบายการคืนเงินลงทุนออกจากกองทุนวายุภักษ์ก่อนโครงการของรมว.คลัง

ไม่ว่ากองทุนคืนเงินลงทุนเท่าไหร่ ก็ตกเป็นของผู้ลงทุนฝ่ายรัฐทั้งหมด

สมมติกองทุนบริหารขาดทุน เงินที่ลงทุนไว้ 100 บาท สมมติขาดทุน 30 บาท เหลือคืนเงินลงทุน 70 บาท

เงินลงทุนที่คืน จะตกเป็นของผู้ลงทุนฝ่ายรัฐ คือ 70 บาท

รูป 4 เป็นแผนผังอธิบายการคืนเงินลงทุนออกจากกองทุนวายุภักษ์หลังมีโครงการของรมว.คลัง

เมื่อกองทุนจ่ายคืนเงินลงทุน 70 บาทให้แก่ผู้ลงทุนประชาชน (กลุ่ม ก) จะต้องมีการชดเชยการขาดทุนเงินต้นของกลุ่มนี้

ผู้ลงทุนฝ่ายรัฐ (กลุ่ม ข) จึงจะต้องยอมเฉือนเนื้อ ควักจ่ายชดเชยขาดทุนเงินต้นให้แก่ผู้ลงทุนประชาชน (กลุ่ม ก) อีก 30 บาท

ดังนั้น ผู้ลงทุนประชาชน (กลุ่ม ก) ตลอดจนนักลงทุนต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินี และที่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในไทย จะไม่ต้องรับขาดทุน 30 บาท

เป็นการเอาเปรียบคนไทยทั้งประเทศ

ส่วนผู้ลงทุนฝ่ายรัฐ (กลุ่ม ข) เมื่อกองทุนจ่ายคืนเงินลงทุน 70 บาท และยังต้องชดเชยให้แก่ผู้ลงทุนประชาชน (กลุ่ม ก) อีก 30 บาท

ก็จะเหลือคืนเงินลงทุนเพียง 40 บาท

โครงการของรมว.คลังจึงเป็นการถ่ายเทประโยชน์ของ ปชช.ทั้งชาติ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนจนและคนรวย ไปให้เฉพาะกลุ่มเล็กที่มีเงินมาลงทุนเท่านั้น

ผลประโยชน์ของคนจน ของชาวนา ของคนป่วย ของลูกหลานไทย ทุกเฉือนเอาไปให้แก่คนกลุ่มเล็ก

ทั้งนี้ ถ้าผู้ลงทุนฝ่ายรัฐ (กลุ่ม ข) เป็น กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ บุคคลที่เป็นสมาชิกก็ถูกรอนสิทธิ์ไปด้วย

นี่เอง จึงมีคนวิจารณ์ว่า เอาสาธารณสมบัติของแผ่นดินไปปั่นหุ้น ให้เกิดประโยชน์เฉพาะกลุ่ม หรือไม่?