นพ.ไพโรจน์ สุรัตน์วนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมาก บริเวณที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดคือบริเวณรอบดวงตาและจมูก เนื่องจากบริเวณเหล่านี้มีหลอดเลือดที่เชื่อมต่อกับหลอดเลือดในตาอย่างใกล้ชิด หากฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือดโดยไม่ตั้งใจสามารถทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดจอตาได้ ผลข้างเคียงที่รุนแรงและเป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อย คือ ทำให้เกิดภาวะจอตาฉีกขาด (Retinal tear) นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที เป็นผลมาจากการที่เข็มฉีดฟิลเลอร์ ถูกสอดลึกเกินไปจนทะลุเข้าไปในดวงตาจากผู้ฉีดที่ไม่มีความเชี่ยวชาญพอในการควบคุมความลึกของเข็ม ขาดความเข้าใจในโครงสร้างของดวงตาและใบหน้า อาการที่ควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่ เห็นแสงวาบเหมือนแฟลชในดวงตา เห็นจุดหรือเส้นใยลอยในดวงตา รวมไปถึงการมองเห็นผิดปกติไป เห็นภาพบิดเบี้ยวหรือเห็นภาพบางส่วนขาดหายไป หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที