นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ยังเป็นสายพันธุ์เดิม เป็นลูกหลานของสายพันธุ์โอมิครอน ความรุนแรงต่ำกว่าในอดีตลงไปมาก คนเสียชีวิตส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีโรคร่วม คนสุขภาพแข็งแรงดี อาการไม่รุนแรง บางทีไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นปัจจุบันการติดเชื้อยังติดได้ แต่อาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ สถานการณ์ป่วยถือว่าลดลง ในหลายสัปดาห์ก่อน บางสัปดาห์ไม่มีผู้เสียชีวิตเลย ส่วนผู้ป่วยเหลือระดับร้อยกว่าคนต่อสัปดาห์ แต่ในส่วนของไข้หวัดใหญ่ กลับพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาแทน
อย่างไรก็ตาม วันนี้กรมควบคุมโรคยังคงให้คำแนะนำว่า หากใครป่วยโรคทางเดินทายใจ ผู้ป่วยคือคนแรกที่ต้องใส่หน้ากากอนามัย ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม หากไม่จำเป็นก็หลีกเลี่ยงการไปพบปะผู้คน หมั่นล้างมือบ่อยๆ ควรอยู่ห่างจากคนอื่นให้มากที่สุด หรือหยุดงาน 2-3 วัน เพื่อรักษาตัวเอง พักผ่อนให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นด้วย ส่วนคนที่สุขภาพดี สามารถดำเนินชีวิตได้ปกติ ก็พกหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ ไว้ใช้ในกรณีที่อาจจะเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง ก็สามารถนำสิ่งเหล่านี้มาใช้เพื่อป้องกันตัวเองได้ และขอให้หมั่นล้างมือสม่ำเสมอ
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้น มีการคุยกัน และนำเสนอให้เข้าไปอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อเป็นทางเลือก อยู่ที่ สปสช. จะพิจารณาให้อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์หรือไม่
ทั้งนี้ หากพูดถึงความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนหรือไม่ วันนี้วัคซีนโควิดไม่จำเป็นต้องฉีดทั่วๆ ไป ให้ฉีดเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ไม่เคยฉีควัคซีนมาก่อน เนื่องจากเชื่อว่าปัจจุบัน คนไทยส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันแล้ว ยกเว้นเด็กเกิดใหม่ และการฉีดวีคซีนไม่ใช่เพื่อการป้องกันโรค แต่ฉีดเพื่อลดความรุนแรงของโรค