นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันนี้ 24 คน ว่า การทำงานจากนี้จะปรับเปลี่ยนการทำงาน จากเดิมเลขาธิการพรรคจะดูผู้สมัครทั่วประเทศ อาจไม่ได้ดำเนินการในเรื่องอื่นๆ มากพอ โดยให้เลขาธิการเหรัญญิกและนายทะเบียนพรรคเป็นกองสนับสนุนการทำงาน รองหัวหน้าพรรคทั้ง 8 คน ปฏิบัติงานขึ้นตรงหัวหน้าพรรคเพื่อให้พรรคมีความมั่นคงสถาพร พร้อมเชื่อว่าในการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ครั้งนี้ ที่มีทั้งหมด 24 คนจะสร้างความเข้มแข็ง เป็นปึกแผ่นให้กับพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเดินก้าวต่อไป ทั้งนี้โดยหลักแล้วจะมีการประชุมกันและกำหนดแนวทางต่างๆ ตามลำดับ โดยกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่นี้มีความเข้มแข็ง ประกอบด้วย หัวหน้าและรองหัวหน้าพรรค ที่มาจากฝ่ายผู้ที่เป็นนักวิชาการ ผสมผสาน สส. และอดีตรัฐมนตรี มีครบทุกส่วนของพรรค เป็นจุดเข้มแข็ง นอกจากมี สส. อดีตรัฐมนตรี เป็นจำนวนมาก ยังมีนักวิชาการ ที่มีความรู้ในสาขาต่างๆ เข้าร่วมอยู่ในกรรมการบริหารพรรคด้วย จึงมีจำนวนเป็น 24 คน ส่วนแนวทางต่างๆ เมื่อมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งต่อไปจะมีการแถลงข่าวให้ทราบ
นายไพบูล มั่นใจว่า การปรับกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้จะทำให้กรรมการบริหารมีโครงสร้างเป็นหนึ่งเดียวมั่นคง เป็นศูนย์กลางดำเนินงานในนามพรรค ซึ่งเมื่อพรรคมีความมั่นคงเป็นหนึ่งเดียวเป็นเอกภาพก็เชื่อได้ว่า การดำเนินการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือดูแลประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน หรือรับฟังเรื่องราว หรือทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะกรรมการชุดนี้ไม่ใช่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อะไรมากหรือไม่มีบทบาทอย่างที่ผ่านมา แต่ชุดนี้จะมีบทบาทสำคัญ มีการขับเคลื่อนงานต่างๆ
ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านนั้น พร้อมอยู่แล้ว การจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านเป็นสิ่งที่เราพร้อมที่จะปฏิบัติอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นว่าจะก้าวไปสู่ยุคใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง ในทางที่ดีมากขึ้น ชนิดที่ขอให้รอติดตามดู ภายใต้การ นำของพลเอกประวิตร จากนโยบายอนุรักษ์นิยมที่ทันสมัย หรืออุดมการณ์สำคัญคือปกป้องสถาบัน ที่หัวหน้าพรรคย้ำจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ส่วนความแตกต่าง ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคที่มีทหารตั้งในอดีตที่ผ่านมา จะเป็นพรรคชั่วคราวหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เป็นนายทหารนอกราชการ แต่นายทหารนอกราชการ มาร่วมในพรรคมีสัดส่วนที่น้อยมาก ตั้งแต่ก่อตั้งมาถึงปัจจุบันพรรคก็มุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ในลักษณะต่อเนื่องยืนยาว ไม่ใช่อย่างที่หลายฝ่ายไปปรามาสว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ หัวหน้าพรรคจะอยู่กับพรรคเป็นหัวหน้าตลอดไป พรรคเราไม่ใช่เฉพาะกิจ
เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พรรคที่ก่อตั้งโดยทหารไม่ได้อยู่ยืนยาวเท่าใด นายไพบูลย์กล่าวว่าพรรคไหนที่แต่งตั้งโดยไม่มียศทหารก็ล้มหายตายจากไปเยอะแล้ว แต่พรรคพลังประชารัฐเราจะอยู่ต่อไป แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็วิจารณ์กันไป ตนเห็นแต่พรรคอื่นหายไปหมดหายไปเรื่อยๆ พรรคพลังประชารัฐยังอยู่
ส่วนที่เป็นฝ่ายค้านแต่มี สส. โหวตให้ฝั่งรัฐบาล นายไพบูลย์ กล่าวว่าเมื่อมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่คงประชุมเรื่องต่างๆ และงานเริ่มในสภา แต่จะเอาอย่างไรขอหารือในที่ประชุมกรรมการพรรคก่อน ไม่อยากให้ความเห็นส่วนตัว และย้ำว่าต่อไปจะดำเนินการหลักโดยกรรมการบริหารพรรคตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง และข้อบังคับพรรค
ส่วนจำเป็นต้องถอดถอนใครหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่าไม่อยากจะพูดถึง ยืนยันว่าเบื้องต้นยังไม่มีแนวคิดอะไรทั้งสิ้น ไม่ขอให้ความเห็นส่วนตัว รอให้มีมติทางการจากพรรค
นายไพบูลย์ยืนยันว่า การทำหน้าที่ฝ่ายค้านการตรวจสอบนั้น ไม่เคยเกรงใจใคร ตนชอบมากเพราะเป็นงานถนัด ส่วนตัวตั้งแต่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม 40 สว. ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบมาโดยตลอด 6 ปี การทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ ต้องตรวจสอบความถูกต้องอยู่แล้ว เมินเฉยไม่ได้ การตรวจสอบเป็นหน้าที่หลักของพรรคพลังประชารัฐไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลเพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและ ประชาชน และจะเห็นการตรวจสอบของพรรคพลังประชารัฐเข้มข้นขึ้น
ทั้งนี้ จะได้เห็น พล.อ.ประวิตร อภิปรายในสภาหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ดำริอยู่บ่อยว่าจะเข้าสภาในเวลาที่สะดวก ยืนยันว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 24 คน กระตือรือร้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของการทำงาน เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในพรรค ส่วน พล.อ.ประวิตร ตั้งเป้าว่าจะซักฟอกใครเป็นพิเศษหรือไม่ คงต้องไปถามท่านเอง แต่ส่วนตนรู้อยู่แล้วว่าจะตรวจสอบใคร พูดไปหลายครั้งแล้ว