วันนี้ (5 ก.ย.) มีการเผยแพร่เอกสารลับเกี่ยวกับผลสอบ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่ไม่อยู่ในพื้นที่ขณะที่รักษาการนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเป็นการตอบกลับผลการสอบสวน ลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลับ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย รายงานผลการดำเนินการกรณี นายพุฒิพงศ์ ชี้แจงเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทราบนั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาจากรายงานผลการดำเนินการของปลัดกระทรวงมหาดไทย และรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แล้วเห็นว่า
1.กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายชี้แจงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในวันที่ 23 สิงหาคม โดยอ้างว่ามีเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายออกจากกรุงเทพมหานครในเวลา 19.40 น. และเกรงว่าภารกิจจะยังไม่เสร็จสิ้น แต่ได้เดินทางกลับในวันที่ 24 สิงหาคม เที่ยวบินเวลา 11.20 น. และเดินทางถึงจังหวัดเชียงรายในเวลา 13.11 น. นั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจากในข้อเท็จจริงยังมีเที่ยวบินที่ออกเดินทางไปจังหวัดเชียงรายในช่วงเวลาข้าของวันที่ 24 สิ่งหาคม อีกหลายเที่ยวบินได้แก่ สายการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์ ออกเดินทางเวลา 06.30 น. สายการบินไทยไลออนแอร์ ออกเดินทางเวลา 06.50 น. สายการบินแอร์เอเชีย ออกเตินทางในเวลา 07.05 น. และสายการบินไทย ออกเดินทางในเวลา 08.20 น. ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งนี้ จึงเห็นได้ว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีความตั้งใจ อุตสาหะ เอาใจใส่ และอุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการแล้วจะไม่เกิดกรณีนี้ขึ้น กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมากล่าวอ้างได้
2.กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายอ้างว่า ได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบในวันที่ 23 สิงหาคม ถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ โดยมีการมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และร่วมคณะตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยแทน โดยไม่มีหลักฐานใดๆ ประกอบนั้น เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถนำเรียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ ก็ย่อมที่จะรายงานโดยตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์แอปพลิเคชัน ดังที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เคยปฏิบัติในการติดต่อรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยตรงเป็นประจำมาโดยตลอด อีกทั้งยั้งสามารถขออนุญาตเดินทางร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะได้ การกล่าวอ้างนี้จึงเป็นเหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้
3.กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในช่วงเช้าวันที่ 23 สิงหาคม และปลัดกระทรวงมหาดไทยยังอนุมัติตามที่แจ้งด้วยวาจา ทั้งที่เหตุผลที่อ้างนั้นไม่สามารถรับฟังได้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยควรที่จะสังการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เร่งเดินทางและกำชับให้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้จงได้ อีกทั้งเมื่อได้ทราบการรายงานเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบ เพื่อให้พิจารณาหรือสั่งการแต่อย่างใด
4.กรณีนี้เป็นกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายชี้แจงเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ให้ทราบภายใน 3 วัน มิได้เป็นการกล่าวหาว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกระทำผิดวินัยตามมาตรา 90 จึงไม่เป็นเหตุให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณา
สังยุติเรื่องโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 57(2) ประกอบมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่อย่างใด อีกทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยยังได้เร่งสรุปความเห็นควรยุติเรื่องดังกล่าว โดยยังมิได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยังไม่ปรากฎพยานหลักฐานอันจะเชื่อได้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ด้วยความมุ่งมั่น อุตสาหะ เอาใจใส่ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามควรแก่กรณี
5.การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรายงานโดยใช้เหตุผลว่า การเดินทางกลับมายังพื้นที่ในช่วงเช้า ของวันที่ 24 สิงหาคม เป็นระยะเวลากระชั้นชิดไม่ทันในการต้อนรับนั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยจังหวัด ที่จะต้องประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อบัญชาการเหตุการณ์และแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัณภัย มิใช่เป็นการต้อนรับในลักษณะการตรวจเยี่ยมราชการโดยทั่วไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบการปฏิบัติราชการของกระทรวงมหาดไทย ตามนัยมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำข้อสังเกตดังกล่าว ไปแก้ไขและดำเนินการเพื่อ
มิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาจากรายงานผลการดำเนินการของปลัดกระทรวงมหาดไทย และรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แล้วเห็นว่า
1.กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายชี้แจงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในวันที่ 23 สิงหาคม โดยอ้างว่ามีเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายออกจากกรุงเทพมหานครในเวลา 19.40 น. และเกรงว่าภารกิจจะยังไม่เสร็จสิ้น แต่ได้เดินทางกลับในวันที่ 24 สิงหาคม เที่ยวบินเวลา 11.20 น. และเดินทางถึงจังหวัดเชียงรายในเวลา 13.11 น. นั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจากในข้อเท็จจริงยังมีเที่ยวบินที่ออกเดินทางไปจังหวัดเชียงรายในช่วงเวลาข้าของวันที่ 24 สิ่งหาคม อีกหลายเที่ยวบินได้แก่ สายการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์ ออกเดินทางเวลา 06.30 น. สายการบินไทยไลออนแอร์ ออกเดินทางเวลา 06.50 น. สายการบินแอร์เอเชีย ออกเตินทางในเวลา 07.05 น. และสายการบินไทย ออกเดินทางในเวลา 08.20 น. ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งนี้ จึงเห็นได้ว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีความตั้งใจ อุตสาหะ เอาใจใส่ และอุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการแล้วจะไม่เกิดกรณีนี้ขึ้น กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมากล่าวอ้างได้
2.กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายอ้างว่า ได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบในวันที่ 23 สิงหาคม ถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ โดยมีการมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และร่วมคณะตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยแทน โดยไม่มีหลักฐานใดๆ ประกอบนั้น เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถนำเรียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ ก็ย่อมที่จะรายงานโดยตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์แอปพลิเคชัน ดังที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เคยปฏิบัติในการติดต่อรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยตรงเป็นประจำมาโดยตลอด อีกทั้งยั้งสามารถขออนุญาตเดินทางร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะได้ การกล่าวอ้างนี้จึงเป็นเหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้
3.กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในช่วงเช้าวันที่ 23 สิงหาคม และปลัดกระทรวงมหาดไทยยังอนุมัติตามที่แจ้งด้วยวาจา ทั้งที่เหตุผลที่อ้างนั้นไม่สามารถรับฟังได้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยควรที่จะสังการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เร่งเดินทางและกำชับให้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้จงได้ อีกทั้งเมื่อได้ทราบการรายงานเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบ เพื่อให้พิจารณาหรือสั่งการแต่อย่างใด
4.กรณีนี้เป็นกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายชี้แจงเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ให้ทราบภายใน 3 วัน มิได้เป็นการกล่าวหาว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกระทำผิดวินัยตามมาตรา 90 จึงไม่เป็นเหตุให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณา
สังยุติเรื่องโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 57(2) ประกอบมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่อย่างใด อีกทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยยังได้เร่งสรุปความเห็นควรยุติเรื่องดังกล่าว โดยยังมิได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยังไม่ปรากฎพยานหลักฐานอันจะเชื่อได้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ด้วยความมุ่งมั่น อุตสาหะ เอาใจใส่ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามควรแก่กรณี
5.การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรายงานโดยใช้เหตุผลว่า การเดินทางกลับมายังพื้นที่ในช่วงเช้า ของวันที่ 24 สิงหาคม เป็นระยะเวลากระชั้นชิดไม่ทันในการต้อนรับนั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยจังหวัด ที่จะต้องประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อบัญชาการเหตุการณ์และแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัณภัย มิใช่เป็นการต้อนรับในลักษณะการตรวจเยี่ยมราชการโดยทั่วไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบการปฏิบัติราชการของกระทรวงมหาดไทย ตามนัยมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำข้อสังเกตดังกล่าว ไปแก้ไขและดำเนินการเพื่อ
มิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก