xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.ย้ำ 64 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 2 (157/2567) ลงวันที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์ระหว่างวันที่ 3 – 9 กันยายน 2567 แยกเป็น

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ อ.ปางมะผ้า อ.ปาย อ.สบเมย) เชียงใหม่ (อ.จอมทอง อ.ฮอด) เชียงราย (อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง) ลำพูน (อ.เมืองฯ อ.ลี้) ลำปาง(อ.เมืองฯ อ.แจ้ห่ม อ.ห้างฉัตร อ.เมืองปาน อ.เสริมงาม อ.เกาะคา อ.แม่พริก) พะเยา (อ.ปง อ.เชียงคำ อ.จุน อ.ภูกามยาว) แพร่ (อ.เมืองฯ อ.สอง อ.วังชิ้น อ.ลอง) น่าน (อ.ทุ่งช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ปัว อ.บ่อเกลือ อ.เชียงกลาง) อุตรดิตถ์ (อ.เมืองฯ อ.ฟากท่า อ.น้ำปาด อ.ตรอน) ตาก (อ.ท่าสองยาง อ.แม่สอด อ.พบพระ อ.อุ้มผาง) สุโขทัย (อ.เมืองฯ อ.ศรีสัชนาลัย อ.ทุ่งเสลี่ยม อ.กงไกรลาศ) กำแพงเพชร(อ.ปางศิลาทอง อ.คลองลาน อ.โกสัมพีนคร อ.พรานกระต่าย) พิษณุโลก (อ.ชาติตระการ อ.นครไทย อ.วัดโบสถ์ อ.วังทอง อ.เนินมะปราง) พิจิตร (อ.โพธิ์ประทับช้าง) เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ อ.หนองไผ่ อ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก) นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์ อ.แม่เปิน) และอุทัยธานี (อ.บ้านไร่)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ เลย (อ.นาแห้ว อ.เชียงคาน อ.ด่านซ้าย อ.ปากชม) หนองคาย (อ.เมืองฯ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.โพนพิสัย อ.โพธิ์ตาก) บึงกาฬ (อ.เมืองฯ อ.ปากคาด อ.บุ่งคล้าอ.โซ่พิสัย อ.เซกา อ.บึงโขงหลง) หนองบัวลำภู (อ.สุวรรณคูหา) อุดรธานี (อ.นายูง อ.น้ำโสม) สกลนคร (อ.เมืองฯ อ.ภูพาน อ.สว่างแดนดิน) นครพนม (อ.เมืองฯ อ.ศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อ.เมืองฯ อ.คอนสาร อ.หนองบัวแดง) ขอนแก่น (อ.เมืองฯ อ.ภูผาม่าน อ.ชุมแพ อ.บ้านไผ่) มหาสารคาม (อ.เมืองฯ) ร้อยเอ็ด (อ.เมืองฯ อ.เสลภูมิ) ยโสธร(อ.เมืองฯ อ.ป่าติ้ว อ.คำเขื่อนแก้ว) อำนาจเจริญ (อ.เมืองฯ อ.ชานุมาน) นครราชสีมา (อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว) บุรีรัมย์ (อ.เมืองฯ) สุรินทร์ (อ.เมืองฯ อ.ปราสาท) ศรีสะเกษ (อ.เมืองฯ อ.ยางชุมน้อย)และอุบลราชธานี (อ.เมืองฯ อ.วารินชำราบ อ.ตาลสุม อ.น้ำยืน อ.พิบูลมังสาหาร อ.น้ำขุ่น)

ภาคกลาง 18 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค อ.ศรีสวัสดิ์) ราชบุรี (อ.ปากท่อ อ.สวนผึ้ง) สุพรรณบุรี (อ.ด่านช้าง) ชัยนาท (อ.หันคา) ลพบุรี (อ.ชัยบาดาล สระโบสถ์ ลำสนธิ)นครนายก (อ.เมืองฯ ปากพลี บ้านนา) ปราจีนบุรี (อ.เมืองฯ ประจันตคาม นาดี กบินทร์บุรี) สระแก้ว (อ.เมืองฯ) ฉะเชิงเทรา (อ.สนามชัยเขต ท่าตะเกียบ) ชลบุรี (อ.เมืองฯ อ.บางละมุง อ.ศรีราชา) ระยอง(อ.เมืองฯ อ.บ้านค่าย อ.ปลวกแดง อ.นิคมพัฒนา) จันทบุรี (อ.เมืองฯ อ.ขลุง อ.ท่าใหม่ อ.เขาคิชฌกูฏ อ.มะขาม) ตราด (ทุกอำเภอ) เพชรบุรี (อ.หนองหญ้าปล้อง อ.แก่งกระจาน) ประจวบคีรีขันธ์(อ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย อ.ปราณบุรี) ปทุมธานี (อ.ธัญบุรี อ.คลองหลวง) นนทบุรี (อ.เมืองฯ อ.ปากเกร็ด) และสมุทรปราการ (อ.เมืองฯ อ.บางพลี อ.บางเสาธง)

ภาคใต้ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร (อ.ท่าแซะ อ.สวี) สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองฯ อ.คีรีรัฐนิคม อ.พุนพิน อ.พระแสง อ.เวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อ.เมืองฯ อ.เชียรใหญ่ อ.ลานสกา อ.ถ้ำพรรณรา อ.ทุ่งใหญ่)พัทลุง (อ.เมืองฯ อ.ปากพะยูน อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ อ.ควนขนุน) สงขลา (อ.รัตภูมิ อ.หาดใหญ่ อ.สะบ้าย้อย อ.นาหม่อม) ระนอง (ทุกอำเภอ) พังงา (อ.เมืองฯ อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง อ.ท้ายเหมือง)ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ อ.เหนือคลอง อ.อ่าวลึก อ.คลองท่อม อ.ปลายพระยา อ.เกาะลันตา อ.เขาพนม) ตรัง (อ.เมืองฯ อ.สิเกา อ.ย่านตาขาว อ.กันตัง อ.ห้วยยอด อ.รัษฎา อ.วังวิเศษ) และสตูล (อ.เมืองฯ อ.ควนโดน อ.ควนกาหลง อ.ทุ่งหว้า อ.มะนัง)

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง

ภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง (อ.เมืองฯ อ.สุขสำราญ อ.กะเปอร์) พังงา (อ.เกาะยาว อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ท้ายเหมือง อ.ตะกั่วป่า อ.คุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ อ.คลองท่อม อ.เกาะลันตาอ.เหนือคลอง อ.อ่าวลึก) ตรัง (อ.กันตัง อ.สิเกา อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ) และสตูล (อ.เมืองฯ อ.ละงู อ.มะนัง อ.ทุ่งหว้า)

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้เน้นย้ำ 64 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยภัย เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักบางพื้นที่ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง

โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด