พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 กันยายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎร เพื่อเชิญไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยต่อไป และมอบแก่ราษฎรอำเภอสวรรคโลก ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรีได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก จำนวน 3 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา
ทั้งนี้ องคมนตรี ได้พูดคุยให้กำลังใจและขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจิตอาสาพระราชทานในการปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว
การนี้ องคมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และรายงานการเกิดอุทกภัย รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยองคมนตรีได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกัน การเตือนภัย การช่วยเหลือราษฎรที่เกิดจากภัยธรรมชาติเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก รวมถึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดประสานกันให้ดีถึงจำนวนมวลน้ำที่จะไหลผ่านแต่ละจังหวัดจะได้เตรียมการได้ทันการ และเกิดผลกระทบน้อยที่สุด รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม
จังหวัดสุโขทัย ได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมกำลังปานกลางแผ่ปกคลุมพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่บริเวณต้นน้ำอำเภอปง และอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา และต้องรับน้ำบางส่วนจากจังหวัดแพร่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งโครงการชลประทานได้บริหารจัดการน้ำแม่น้ำยมที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ โดยผันลงคลองยม-น่าน แม่น้ำยมสายเก่าและสายหลัก ซึ่งมีปริมาณน้ำที่ไหลมาจากทิศเหนือเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นและน้ำกัดเซาะคันดินริมตลิ่งจนพังทลาย ท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนน สิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย และได้รับผลกระทบใน 7 อำเภอ 47 ตำบล 233 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 7,912 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 66 เส้นทาง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 43,747 ไร่ ราษฎรเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งจังหวัดสุโขทัย และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการและเร่งดำเนินการสำรวจและให้ความช่วยเหลือราษฎรจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค ที่พักอาศัยชั่วคราวให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ตลอดจนฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนราษฎร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น เพื่อให้ราษฎรสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขโดยเร็ว
ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว เหลือในบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่ม ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยจังหวัดได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป