ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารายงานสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย โดยมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมประชุมด้วย โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรโดยบูรณาการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนและมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย ทั้งด้านพืช ประมง ปศุสัตว์เพื่อช่วยฟื้นฟู ตลอดจนเร่งเยียวยาในพื้นที่ที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติโดยเร็วต่อไป
กรมชลประทานรายงานว่า ปริมาณฝนสะสมช่วงฤดูฝนปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม - 29 สิงหาคม 2567 มีรวม 800.1 มม. สูงกว่าค่าปกติ 91.9 มิลลิเมตร คิดเป็นร้อยละ 13% แต่ตลอดทั้งปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-29 ส.ค.67 มีรวม 981.4 มม. ซึ่งยังต่ำกว่าค่าปกติ 33.1 มิลลิเมตร คิดเป็น ร้อยละ 3%
ตั้งแต่เดือนกันยายน ถึง ตุลาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีฝนมากอยู่แล้ว ได้สั่งการให้บริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกร แต่ยืนยันว่า อ่างเก็บน้ำต่างๆ ยังมีพื้นที่รองรับน้ำ โดยปริมาณน้ำเก็บกักอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ 470 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ย. 67) มีปริมาณน้ำ 47,805 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 63% สามารถรับน้ำได้อีก 28,532 ล้าน ลบ.ม. โดยคาดการณ์ว่า เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนและเข้าสู่ฤดูแล้ง (1 พ.ย.67) จะมีน้ำเก็บกัก 59,355 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 84% ของความจุรวม
นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม – 1 กันยายน 2567 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยซึ่งสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 23 จังหวัด แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยอีก 16 จังหวัด 64 อำเภอ โดยเกิดผลกระทบต่อภาคเกษตรแบ่งเป็น ด้านพืช มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ทั้งข้าว พืชไร่พืชผัก และไม้ผลไม้ยืนต้น รวม 758,376.80 ไร่ เกษตรกร 121,708 ราย ด้านประมง พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ ทั้งบ่อปลา บ่อกุ้ง รวม 10,514.25 ไร่ กระชัง 80,806.50 ตารางเมตร เกษตรกร 13,107 ราย ด้านปศุสัตว์ จำนวนสัตว์ได้รับผลกระทบ ทั้งโค กระบือ สุกร แพะ/แกะ และสัตว์ปีก รวม 3,290,033 ตัว แปลงหญ้า 2,476.55 ไร่ เกษตรกร 54,026 ราย
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ช่วยเหลือเฉพาะหน้า ทั้งในเรื่องการสนับสนุนอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ตั้งแต่วันที่ 23 – 30 สิงหาคม 2567 รวม 17,490 ชุด และช่วยเหลือเครื่องมือเครื่องจักรแล้ว 646 หน่วย แบ่งเป็น เครื่องสูบน้ำ 533 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 50 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 7 คัน เครื่องจักรอื่นๆ 56 หน่วย รวมถึงอพยพสัตว์ 230,305 ตัว รักษาสัตว์ 7,082 ตัว ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 11,641 ซอง ถุงยังชีพสัตว์ 45 ถุง หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน 100,565 กิโลกรัม รวมถึงจัดชุดเฉพาะกิจพร้อมเจ้าหน้าที่ รถยนต์ เรือตรวจการประมง ช่วยนำส่งเสบียงอาหารและน้ำดื่ม และซ่อมเครื่องยนต์ เครื่องจักรการเกษตร ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยด้วย