นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายประภัตร โพธสุธน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี เขต 2 นายสรชัด สุจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท โดยมีนายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 และนายวิชัย ผันประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 เป็นผู้รายงาน สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำใช้การ 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา การคาดการณ์ฝนที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงระยะเวลาสัปดาห์นี้
นายวราวุธ กล่าวว่า สส.สุพรรณบุรี มีความเป็นห่วงในสถานการณ์น้ำจึงเดินทางมาดูที่เขื่อนเจ้าพระยา และได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโครงการ และเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมประตูน้ำแต่ละบานของแม่น้ำท่าจีน จากการรายงานพบว่า ปี 67 นี้สถานการณ์ภาพรวมน่าจะอยู่ในพื้นที่ที่คุมได้ อาจจะมีน้ำท่วมเล็กน้อยแต่ไม่ถึงปี54 อย่างแน่นอน
ด้าน สส.ณัฐวุฒิ มีความเป็นห่วงมากเนื่องจากพื้นที่อยู่ปลายน้ำ ที่อำเภอบางปลาม้าและอำเภอสองพี่น้องนั้นคือการจัดการบริหารน้ำในพื้นที่ที่ต่ำลงไป เพราะพื้นที่ทุ่งรับน้ำของประเทศไทยนับวันยิ่งจะลดลง เช่น ทุ่งพระยาบันลือและทุ่งพระพิมลที่เคยเป็นทุ่งรับน้ำสำคัญ ผ่านมาเกือบ 20 ปีทั้งสองพื้นที่พัฒนากลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ทำให้พื้นที่ทั้งสองไม่สามารถรับน้ำได้เหมือนเมื่อก่อนซึ่งสวนทางกับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่าและน้ำทุ่งเมื่อมีพายุเข้ามา
นายวราวุธ กล่าวว่า ฝากการบ้านให้ทางกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำ ทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน ให้มีการกระจายน้ำและการหน่วงน้ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยว ผลิตผลทางการเกษตรได้ และทำให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด เพราะถึงแม้ว่าจะท่วมแต่ก็ท่วมในปริมาณที่ไม่มาก หรือหากมีน้ำท่วมก็ให้สามารถระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาหรือปากอ่าวให้ได้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องคำนึงถึงเวลาของน้ำทะเลหนุนด้วย โดยเฉพาะช่วงหนุนที่พีคที่สุดช่วง ต.ค. ในช่วงนี้ถ้าเร่งระบายลงอ่าวไทยได้ก็ต้องเร่งเสียก่อน ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมชลประทานทุกคน เข้าใจดีว่าการบริหารจัดการน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย
นายวราวุธ ระบุว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (2 ก.ย.) ที่บริเวณประตูน้ำพลเทพ ซึ่งจะเข้ามาแม่น้ำท่าจีน ได้ลดปริมาณการปล่อยน้ำลงมาแล้ว ทำให้สามารถยันน้ำที่จะเข้ามาในระบบให้อยู่ในระดับนี้ ดังนั้นเมื่อไม่มีน้ำในระบบเพิ่มขึ้น มีแต่น้ำทุ่ง ก็จะสามารถทำให้ระดับน้ำที่อยู่ในพื้นที่สุพรรณบุรีอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตามต้องดูสภาพอากาศด้วยว่าหากฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างหนักอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ต้องฝากพี่น้องประชาชนว่าหากรีบเก็บเกี่ยวได้ก็ขอให้ทำ เพราะไม่แน่ใจว่าฝนในพื้นที่จะเป็นอย่างไร เราต้องไม่ประมาท ปีนี้น้ำไม่น่าจะเท่าปี 2554 ซึ่งได้ขอให้ทางกรมชลประทาน ไปศึกษาว่าในปีนั้นเราบริหารจัดการน้ำอย่างไรจึงได้ท่วมกรุงเทพฯ ขอให้ศึกษาโมเดลนั้นให้ดี เพื่อที่เราจะได้นำมาปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำในปีนี้ปีหน้า เพราะเมื่อดูปริมาณน้ำในแต่ละเขื่อนแล้วที่ผ่านมาจะเห็นว่า ปริมาณน้ำปี 2566 มากกว่า ปี 2565 พอสมควร สะท้อนให้เห็นว่าเอลนีโญหมดเร็ว แล้วลานีญามาเร็วกว่าที่คิด ดังนั้นที่น่าเป็นห่วงคือ ปี 2567 ไป 2568 นั้น ปริมาณน้ำน่าจะเพิ่มมากขึ้น จึงได้ฝากกรมชลประทานในการเตรียมตัววางแผน ขุดลอกคลอง และลำน้ำสำคัญ เช่น แม่น้ำท่าจีน เพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ในปี 2568