นายสิรวิชญ์ ทรัพย์เอนก สัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) รายงานว่า ทีมสัตวแพทย์พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจติดตามและรักษาช้างป่าเพศเมีย ชื่อ "พังจักกะแหล่น" อายุประมาณ 8-10 ปี น้ำหนักราว 2-3 ตัน ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณขาหน้าทั้งสองข้าง ในพื้นที่ตำบลช้างทูน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด
ทีมปฏิบัติการประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวาย ฝ่ายปกครองท้องถิ่น และอาสาสมัครในพื้นที่
ทีมเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตลอดทั้งวันในการติดตามและรักษาช้างป่า โดยพบว่าช้างอาศัยอยู่กับฝูงช้างป่าอื่นๆ ประมาณ 5-9 ตัว ในบริเวณรอยต่อระหว่างสวนยาง สวนปาล์ม และป่าเชิงเขาสุเทพ การปฏิบัติการรักษาเริ่มขึ้นในช่วงเย็นและดำเนินไปจนถึงช่วงค่ำ
จากการตรวจสอบด้วยกล้องส่องทางไกล พบว่าช้างมีแผลเปิดขนาดประมาณ 2x2 นิ้ว บริเวณเหนือข้อเท้าด้านซ้าย และมีอาการบวมแดงที่ขาด้านขวา ทำให้เดินกะเผลก ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการรักษาโดยการยิงยาลดอักเสบและยาปฏิชีวนะเข้าสู่ร่างกายช้าง รวมปริมาณยาทั้งสิ้น 40 มิลลิลิตร
สาเหตุการบาดเจ็บยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการถูกคุกคามด้วยอาวุธปืน สะเก็ดระเบิด หรือการวิ่งหนีตกใจจนพลาดตกร่องสวนหรือสะดุดตอไม้
ทีมสัตวแพทย์คาดว่าภายใน 3-5 วัน อาการอักเสบและการติดเชื้อน่าจะลดลง และจะติดตามอาการของช้างอย่างใกล้ชิดในช่วง 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า หากอาการไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องวางยาซึมเพื่อทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดต่อไป
ปฏิบัติการครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และดูแลสัตว์ป่าในประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในการรักษาสมดุลทางนิเวศวิทยา เพราะช้างป่าเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศป่า