น.พ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีผู้กังวลว่า ผู้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานร สายพันธุ์ Clade 1b (Mpox Clade 1b) รายแรกของไทย กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ขอยืนยันว่า กรมควบคุมโรคมีการติดตามเฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิดและผู้สัมผัสเสี่ยงทุกคนอย่างใกล้ชิด โดยมีการติดตาม อาการทุกวัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ นับตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมายังไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเติมแต่อย่างใด สําหรับผู้ติดเชื้อที่พบได้ดำเนินการแยกรักษาและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยรายอื่น ซึ่งจะได้รับการรักษา จนกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อหรือตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พร้อมทั้งได้เน้นย้ำการป้องกัน การติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเมื่อต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ตามมาตรฐานการดูแลโรคอุบัติใหม่อย่างเคร่งครัด
น.พ.ธงชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันโรคฝีดาษวานร (MPOX) ยังจัดอยู่ในกลุ่มโรคติดต่อที่ต้อง เฝ้าระวังจึงเป็นเพียงขอความร่วมมือจากผู้สัมผัสใกล้ชิดและผู้สัมผัสเสี่ยงในการปฏิบัติตน เพื่อประโยชน์ ในการติดตาม เฝ้าระวังอาการ และควบคุมโรค โดยขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำ 5 ข้อ จนกว่า จะครบ 21 วัน หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ ได้แก่ 1.สังเกตอาการด้วยตนเองทุกวัน อาทิ ไข้ ผื่นผิวหนัง ซึ่งมัก ปรากฏที่ใบหน้า แขนขา อวัยวะเพศ และลำตัว ไอ จาม และต่อมน้ำเหลืองโต หากมีอาการอย่างหนึ่ง อย่างใดให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที 2.รักษาความสะอาดส่วนบุคคล ล้างมือและ ทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ หรือเมื่อสัมผัสพื้นผิวสัมผัส 3.งดการมี เพศสัมพันธ์ หรือพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูกหรือ น้ำลาย ระหว่างกัน 4. งดการ ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น อุปกรณ์รับประทานอาหาร และเสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่น และแยกทำความสะอาด และ 5. เก็บและจัดการขยะที่อาจปนเปื้อนสารคัดหลั่งของตนเองให้มิดชิด แยกจากขยะทั่วไป โดยให้ปฏิบัติตามคําแนะนําข้างต้นอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังได้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองโรค ทั้งที่ด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหว่างประเทศ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาจากทวีปแอฟริกา ที่มีผู้เดินทางเข้ามาวันละประมาณ 300 คน ซึ่งจะมีแพทย์คอยดูแลทุกคน อีกทั้งสามารถตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการได้ที่สนามบิน สำหรับ กรณีการฉีดวัคซีนภายหลังการสัมผัส องค์การอนามัยโลกแนะนำให้สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิด เช่น บุคคลใน ครอบครัว เป็นต้น ซึ่งจะใช้ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยจะมีการประชุมปรึกษาถึง แนวทางการใช้ในวันที่ 6 กันยายน 2567 นี้ ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถป้องกันตัวเองด้วยการงด การมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลแปลกหน้า และหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เพื่อความปลอดภัย
น.พ.ธงชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันโรคฝีดาษวานร (MPOX) ยังจัดอยู่ในกลุ่มโรคติดต่อที่ต้อง เฝ้าระวังจึงเป็นเพียงขอความร่วมมือจากผู้สัมผัสใกล้ชิดและผู้สัมผัสเสี่ยงในการปฏิบัติตน เพื่อประโยชน์ ในการติดตาม เฝ้าระวังอาการ และควบคุมโรค โดยขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำ 5 ข้อ จนกว่า จะครบ 21 วัน หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ ได้แก่ 1. สังเกตอาการด้วยตนเองทุกวัน อาทิ ไข้ ผื่นผิวหนัง ซึ่งมัก ปรากฏที่ใบหน้า แขนขา อวัยวะเพศ และลำตัว ไอ จาม และต่อมน้ำเหลืองโต หากมีอาการอย่างหนึ่ง อย่างใดให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที 2.รักษาความสะอาดส่วนบุคคล ล้างมือและ ทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ หรือเมื่อสัมผัสพื้นผิวสัมผัส 3.งดการมี เพศสัมพันธ์ หรือพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูกหรือ น้ำลาย ระหว่างกัน 4. งดการ ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น อุปกรณ์รับประทานอาหาร และเสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่น และแยกทำความสะอาด และ 5. เก็บและจัดการขยะที่อาจปนเปื้อนสารคัดหลั่งของตนเองให้มิดชิด แยกจากขยะทั่วไป โดยให้ปฏิบัติตามคําแนะนําข้างต้นอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังได้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองโรค ทั้งที่ด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหว่างประเทศ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาจากทวีปแอฟริกา ที่มีผู้เดินทางเข้ามาวันละประมาณ 300 คน ซึ่งจะมีแพทย์คอยดูแลทุกคน อีกทั้งสามารถตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการได้ที่สนามบิน สำหรับ กรณีการฉีดวัคซีนภายหลังการสัมผัส องค์การอนามัยโลกแนะนำให้สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิด เช่น บุคคลใน ครอบครัว เป็นต้น ซึ่งจะใช้ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยจะมีการประชุมปรึกษาถึง แนวทางการใช้ในวันที่ 6 กันยายน 2567 นี้ ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถป้องกันตัวเองด้วยการงด การมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลแปลกหน้า และหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เพื่อความปลอดภัย