นายฮันส์ คลูเก้ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวย้ำว่า mpox หรือ โรคฝีดาษวานร ไม่ใช่โรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือเก่าก็ตาม เนื่องจากทางการทราบดีว่าจะควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อได้อย่างไรและต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา
นายคลูเก้ กล่าวว่า เราจะเลือกวางระบบเพื่อควบคุมและกำจัดโรคฝีดาษวานรทั่วโลกหรือไม่ หรือเราจะเข้าสู่วัฏจักรแห่งความตื่นตระหนกและการละเลย แนวทางและวิธีที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันและในปีต่อๆ ไปจะเป็นการทดสอบที่สำคัญสำหรับยุโรปและโลก
โรค Mpox เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดแผลเป็นหนองและมีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ มักมีอาการไม่รุนแรง แต่สามารถเสียชีวิตได้ Mpox พันธุ์ clade Ib ก่อให้เกิดความกังวลทั่วโลก เนื่องจากดูเหมือนว่าจะแพร่กระจายได้ง่ายกว่าผ่านการสัมผัสใกล้ชิดแบบเป็นประจำ
ปัจจุบันมีรายงานผู้ป่วย Clade II รายใหม่ประมาณ 100 ราย ในภูมิภาคยุโรปทุกเดือน ผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในแอฟริกาได้รับคำแนะนำให้พิจารณาการฉีดวัคซีน
ทาริก จาซาเรวิช โฆษกของ WHO กล่าวว่า WHO ไม่ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ใช้วัคซีนในสถานที่ที่มีการระบาดสำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ของไทย ระบุว่า ไทยพบสายพันธุ์ย่อย C.1 ถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เคลดวัน Clade I ที่มีการระบาดอยู่ในทวีปแอฟริกา โดยเคลดวัน Clade I มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10% ในขณะที่เคลดทู Clade II ทั้งเคลดทูเอ Clade IIa เคลดทูบี Clade IIb ซึ่งรวมถึง C.1 มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าเพียง 1%