xs
xsm
sm
md
lg

ประชุมสภาฯ พรุ่งนี้ จับตาแก้เนื้อหากรรมาธิการ 7 มาตรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) มีวาระพิจารณาสำคัญ คือ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ….  ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มี นายวุฒิสาร ตันไชย เป็นประธาน กมธ. ได้พิจารณาแล้วเสร็จ ทั้งนี้ มี สส.ที่เสนอคำแปรญัตติ 1 คน คือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน

ส่วนสาระของการแก้ไขเนื้อหา กมธ.มีการแก้ไขเนื้อหา 7 มาตรา จากร่าง พ.ร.บ. ฉบับหลักที่เสนอ 9 มาตรา และมีเพิ่มขึ้นใหม่  3 มาตรา โดยมีสาระสำคัญที่แก้ไข คือ 1.การกำหนดเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาการทำประชามติที่เป็นวันเดียวกันกับการเลือกตั้ง สส. เป็นการทั่วไป หรือ การเลือกตั้งท้องถิ่นเนื่องจากครบวาระ ต้องไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วันนับจากวันที่รับแจ้งจากประธานรัฐสภา

2.กรณีที่ประชาชน 5 หมื่นชื่อ จะยื่นเรื่องต่อครม.ให้พิจารณาทำประชามติ ได้เพิ่มรายละเอียดให้ สามารถทำผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้

3.เกณฑ์การผ่านประชามติ ที่กำหนดให้ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง กมธ.ได้เพิ่มหลักเกณฑ์คือ นอกจากจะได้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงแล้ว ต้องเป็นคะแนนที่สูงกว่าคะแนนที่ไม่แสดงความคิด (งดออกเสียง) ในเรื่องที่ทำประชามตินั้น ทั้งนี้ในเกณฑ์ผ่านประชามติตามพ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ.2561 นั้นกำหนดให้ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น คือ  ต้องมีผู้มาใช้สิทธิ เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และ เสียงเห็นชอบต้องเป็นกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ

ส่วนมาตราที่ กมธ.เพิ่มใหม่นั้น พบความน่าสนใจ คือ การกำหนดรายละเอียดให้เผยแพร่และจัดทำข้อมูลนำเสนอต่อประชาชนก่อนการออกเสียงประชามติที่ต้องมุ่งหมายให้ประชาชนเข้าใจในรายละเอียดที่ถูกต้อง ไม่ชี้นำว่าให้ออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ทั้งนี้ กมธ.ได้เพิ่มข้อความ คือ ข้อห้ามให้ชี้นำให้มีการลงคะแนนออกเสียงทางใดทางหนึ่งกับเรื่องที่จะมีการออกเสียงนั้น โดยเหตุผลที่เพิ่มข้อความดังกล่าว เพราะกมธ.ได้เพิ่มเกณฑ์ผ่านประชามติที่เติมเงื่อนไข คือ ต้องได้คะแนนที่สูงกว่าการไม่แสดงความคิดเห็น หรือ งดออกเสียง ดังนั้นหากกำหนดข้อห้ามชี้นำ ให้เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ อาจไม่ครอบคลุมประเด็นที่เพิ่มเติม นอกจากนั้น เป็นการกำหนดรายละเอียดในส่วนธุรการ เช่น กรณีที่กำหนดวันออกเสียงประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้งสส. หรือเลือกตั้งท้องถิ่นให้ ครม. หารือกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายในการทำประชามติและการเลือกตั้ง กำหนดให้มีกรรมการประจำเขต ไม่เกิน 5 คน