นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยแพร่บทความผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr.Suvit Maesincee ระบุถึงข้อแนะนำกับการขับเคลื่อนการบริหารประเทศของว่าที่นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาลใหม่ เสนอว่า อยากให้รัฐบาลชุดใหม่สร้าง "รัฐที่น่าเชื่อถือ" โดยระบุเนื้อหาว่า
รัฐบาลชุดใหม่ กับ การสร้าง "รัฐที่น่าเชื่อถือ"
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเมืองไทยติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ของการปฏิวัติรัฐประหารกับการเลือกตั้ง ไม่สามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้ คือ การขาดซึ่ง "รัฐที่น่าเชื่อถือ" (Credible Government)
"รัฐน่าเชื่อถือ" คือรัฐที่มาด้วยความชอบธรรม (Legitimacy) บริหารราชการแผ่นดินโดยยึดคุณธรรมจริยธรรม (Integrity) เป็นที่ตั้ง และมีความรู้ความสามารถ (Capability) ในการขับเคลื่อนประเทศ
การไม่มีรัฐที่น่าเชื่อถือ ส่งผลให้
1. นิติรัฐ นิติธรรมบกพร่อง
2. เกิดความขัดแย้งที่เรื้อรังและรุนแรง
3. คอร์รัปชั่นเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า
4. นโยบายที่เป็นการปรับเปลี่ยนระดับฐานราก หรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว จะไม่ถูกผลักดัน แต่จะถูกแทนที่ด้วยนโยบายประชานิยมอย่างเข้ม
5. ขาดพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน
ในหนังสือ Hard Truth to Keep Singapore Going อดีตนายกรัฐมนตรีลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ ได้พูดถึงการคัดสรรผู้นำเพื่อมาบริหารประเทศ ลีกวนยูมองว่า การมีผู้นำที่เป็น Exceptionally Exceptional ขับเคลื่อนประเทศนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความอยู่รอดและความเจริญมั่งคั่งของสิงคโปร์ หากปราศจากคนที่มีความรู้ความสามารถที่มีคุณธรรมจริยธรรม ขับเคลื่อนรัฐบาล ภาครัฐ และสถาบันสำคัญๆ สิงคโปร์จะค่อยๆถดถอยลง โดยกล่าวว่า
"Once you have weaker people on top, the whole system slowly goes down. It’s inevitable."
ลีกวนยูจึงยอมไม่ได้เด็ดขาด กับการที่มี "รัฐมนตรีกระจอกและโกงกิน" เข้ามาบริหารประเทศ เพราะหากกระทำเช่นนั้น ถือเป็นการทรยศหักหลังประเทศ
จอห์น เอฟ เคเนดี อดีตประธานาธิบดีอเมริกาเคยกล่าวไว้ว่า การเป็น "ผู้นำประเทศ" ที่ดีนั้น ต้องสามารถตอบคำถามตัวเองใน 4 ข้อดังต่อไปนี้
1. Am I a man of Integrity ?
มีความซื่อตรงต่อตนเองหรือไม่
2. Am a man of Courage ?
มีความกล้าหาญในการตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆของบ้านเมืองหรือไม่
3. Am I a man of Justice ?
มีความเที่ยงธรรมมากน้อยแค่ไหน
4. Am I a man of Dedication ?
มีความเสียสละเพื่อประเทศชาติมากน้อยเพียงใด
นี่คือ Political Mentality ที่แตกต่างของผู้นำที่เป็น "รัฐบุรุษ" กับ "นักการเมือง"
ต้องขอฝากนายกรัฐมนตรีท่านใหม่ในการสร้าง "รัฐที่น่าเชื่อถือ" เพราะรัฐที่น่าเชื่อถือเท่านั้น ที่จะสร้างความมั่นใจ (Confidence) และได้รับความไว้วางใจ (Trust) จากประชาชนและประชาคมโลก
รัฐบาลชุดใหม่ กับ การสร้าง "รัฐที่น่าเชื่อถือ"
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเมืองไทยติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ของการปฏิวัติรัฐประหารกับการเลือกตั้ง ไม่สามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้ คือ การขาดซึ่ง "รัฐที่น่าเชื่อถือ" (Credible Government)
"รัฐน่าเชื่อถือ" คือรัฐที่มาด้วยความชอบธรรม (Legitimacy) บริหารราชการแผ่นดินโดยยึดคุณธรรมจริยธรรม (Integrity) เป็นที่ตั้ง และมีความรู้ความสามารถ (Capability) ในการขับเคลื่อนประเทศ
การไม่มีรัฐที่น่าเชื่อถือ ส่งผลให้
1. นิติรัฐ นิติธรรมบกพร่อง
2. เกิดความขัดแย้งที่เรื้อรังและรุนแรง
3. คอร์รัปชั่นเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า
4. นโยบายที่เป็นการปรับเปลี่ยนระดับฐานราก หรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว จะไม่ถูกผลักดัน แต่จะถูกแทนที่ด้วยนโยบายประชานิยมอย่างเข้ม
5. ขาดพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน
ในหนังสือ Hard Truth to Keep Singapore Going อดีตนายกรัฐมนตรีลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ ได้พูดถึงการคัดสรรผู้นำเพื่อมาบริหารประเทศ ลีกวนยูมองว่า การมีผู้นำที่เป็น Exceptionally Exceptional ขับเคลื่อนประเทศนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความอยู่รอดและความเจริญมั่งคั่งของสิงคโปร์ หากปราศจากคนที่มีความรู้ความสามารถที่มีคุณธรรมจริยธรรม ขับเคลื่อนรัฐบาล ภาครัฐ และสถาบันสำคัญๆ สิงคโปร์จะค่อยๆถดถอยลง โดยกล่าวว่า
"Once you have weaker people on top, the whole system slowly goes down. It’s inevitable."
ลีกวนยูจึงยอมไม่ได้เด็ดขาด กับการที่มี "รัฐมนตรีกระจอกและโกงกิน" เข้ามาบริหารประเทศ เพราะหากกระทำเช่นนั้น ถือเป็นการทรยศหักหลังประเทศ
จอห์น เอฟ เคเนดี อดีตประธานาธิบดีอเมริกาเคยกล่าวไว้ว่า การเป็น "ผู้นำประเทศ" ที่ดีนั้น ต้องสามารถตอบคำถามตัวเองใน 4 ข้อดังต่อไปนี้
1. Am I a man of Integrity ?
มีความซื่อตรงต่อตนเองหรือไม่
2. Am a man of Courage ?
มีความกล้าหาญในการตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆของบ้านเมืองหรือไม่
3. Am I a man of Justice ?
มีความเที่ยงธรรมมากน้อยแค่ไหน
4. Am I a man of Dedication ?
มีความเสียสละเพื่อประเทศชาติมากน้อยเพียงใด
นี่คือ Political Mentality ที่แตกต่างของผู้นำที่เป็น "รัฐบุรุษ" กับ "นักการเมือง"
ต้องขอฝากนายกรัฐมนตรีท่านใหม่ในการสร้าง "รัฐที่น่าเชื่อถือ" เพราะรัฐที่น่าเชื่อถือเท่านั้น ที่จะสร้างความมั่นใจ (Confidence) และได้รับความไว้วางใจ (Trust) จากประชาชนและประชาคมโลก