xs
xsm
sm
md
lg

รวบคาสนามบิน! 4 ผู้ต้องหาชาวฮ่องกงลอบขนเฮโรอีน 14 กก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนฮ่องกง 4 ราย พร้อมของกลางเฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 14 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกล่องขนมภายในกระเป๋าเดินทางแบบลาก เตรียมเดินทางออกไปยังฮ่องกง ซึ่งเป็นผลจากการประสานข้อมูลการสืบสวนร่วมกันระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ส. และตำรวจปราบปรามยาเสพติดฮ่องกง โดยพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดชาวจีนฮ่องกง ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานจัดหายาเสพติด ผู้ควบคุมและลำเลียงยาเสพติด จึงมอบให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด มอบหมาย และประสานชุดปฏิบัติการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) เฝ้าติดตามพฤติการณ์

ในวันที่ 11 สิงหาคม 2567 สืบทราบว่า กลุ่มเป้าหมาย 4 คน จะเดินทางเข้าประเทศไทย และแยกย้ายกันเข้าพักตามโรงแรมในพื้นที่ห้วยขวางและรามคำแหง จึงประสานต่อไปยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หน่วยข่าวกรองทางทหาร และ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 (ขกท.ศปก.ทภ.1) ร่วมกันเฝ้าติดตาม

ช่วงดึกของวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ประสานงานจัดหายาเสพติด รับกระเป๋าเดินทางต้องสงสัยที่บริเวณข้างโรงแรมที่พักย่านห้วยขวาง

วันที่ 15 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. กลุ่มผู้ต้องสงสัยแยกย้ายกันเดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และมีการส่งมอบยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น นำตัวไปยังจุดตรวจเอกซเรย์ ผลการตรวจค้นพบเฮโรอีน จำนวน 40 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 14 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกล่องขนมภายในกระเป๋าเดินทางแบบลาก จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไว้

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเครือข่ายชาวจีนฮ่องกงพยายามลักลอบลำเลียงเฮโรอีนจากประเทศไทยไปฮ่องกงในลักษณะเดียวกันนี้หลายครั้ง ซึ่งจากปัญหาการค้ายาเสพติดในลักษณะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงาน ป.ป.ส. จึงจัดตั้งโครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task force : AITF) และ สกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) เพื่อเป็นหน่วยปฏิบัติการสกัดกั้นการนำยาเสพติดเข้าพื้นที่ตอนใน และส่งออกไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งประสานความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับหน่วยงานระหว่างประเทศ จนนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม