นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนกรณีประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน จนกว่าสถานการณ์ในพื้นที่เป็นปกติ และพี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างปลอดภัย
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง กรณีคืนวันที่ 11 ต่อเนื่องวันที่ 12 - 13 ส.ค. และ 15 ส.ค. มีฝนตกหนักในพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือน ไร่นา น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม บริเวณตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน และเส้นทางถูกตัดขาดในบางช่วง จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.16 (สบป่อง) เข้าช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก โดยช่วยขนอุปกรณ์เครื่องใช้ไว้บนที่สูง ขนเศษกิ่งไม้ ต้นไม้ที่ขวางทางน้ำ และนำแพยางช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในบ้านเรือน และรีสอร์ทที่มีน้ำท่วมขัง พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกในการซ่อมแซมถนนและสะพานที่ชำรุดในชุมชนที่ประสบอุทกภัย ทั้งนี้ได้ทำงานร่วมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ยังส่งผลกระทบกับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างถ้ำน้ำลอด อ.ปางมะผ้า ซึ่งมีปริมาณน้ำในถ้ำเพิ่มขึ้นสูง ยากต่อการสัญจรและเที่ยวชม จึงได้มีประกาศปิดการท่องเที่ยวไปก่อนหน้านี้ และได้มีการฟื้นฟูพร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ซึ่งวันนี้สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการตามปกติแล้ว เช่นเดียวกันกับบริเวณแหล่งท่องเที่ยวถ้ำปลา ภายในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ ที่ก่อนหน้านี้มีปริมาณน้ำค่อนข้างสูง จนต้องประกาศปิดการท่องเที่ยว ก่อนที่จะกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้วเช่นกัน
ด้านการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั้งเกิดเหตุ และหลังน้ำลด ได้สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เข้าช่วยเหลือประชาชน โดยร่วมกับหน่วยงานของจังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง และหลังน้ำลด ให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ดูแลต้นไม้ที่ทับบ้านเรือน ขวางทางน้ำ ทางสัญจร นำแพยางและพาหนะที่จำเป็นเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตลอดจนสนับสนุนหน่วยงานของจังหวัดในการช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ให้พื้นที่ประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากพบว่าแหล่งท่องเที่ยวที่อาจเสี่ยงอันตรายจากการเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินโคลนถล่มให้พิจารณาประกาศปิดการท่องเที่ยวทันที