นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำ 40 สส. พรรคพลังประชารัฐ แถลงจุดยืนในการร่วมรัฐบาล ภายหลังประชุม สส.พรรค ว่า พรรคพลังประชารัฐยังสนับสนุนบุคคลในรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.)
ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยังคงจุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลง ที่จะไม่ร่วมกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคพลังประชารัฐยึดมั่นในนโยบายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดการส่งเสริมความปรองดองของคนในชาติให้มีความสามัคคีและจะร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนในเรื่องเศรษฐกิจและความเท่าเทียม รวมถึงจะพัฒนาประเทศชาติของเราต่อไปให้มีความเข้มแข็ง โดยมติในวันนี้ได้เรียนให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับทราบเรียบร้อยแล้ว
ส่วนวันพรุ่งนี้ พล.อ.ประวิตร จะเดินทางมายกมือโหวตนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองจะไปหารือ กับ พล.อ.ประวิตร อีกครั้ง ซึ่งยอมรับว่าในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เดินทางมาร่วมโหวตด้วย แต่ทุกอย่าง พล.อ.ประวิตร ได้มอบอำนาจให้นายสันติ นางสาวตรีนุช เทียนทอง และตนเอง เป็นคนประสานงานกับ สส. ซึ่ง สส. มีมติตามที่นายสันติได้ออกแถลงการณ์
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมมนัส นังกล่าวถึงโควตารัฐมนตรีของพลังประชารัฐ ว่า ยังคง 4 ตำแหน่งเหมือนเดิม และยืนยันว่าหลังจากที่ได้นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐที่นำโดยนายสันติ นางสาวตรีนุช และตนเอง จะไปพูดคุยและหารือต่อ โดยเฉพาะแนวนโยบาย กับพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ยังไม่มีการขอแลกกระทรวง ส่วนจะมีการสลับตำแหน่งในพรรคหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้น ตนเองไม่ทราบ ตามบัญชีของพรรคเพื่อไทยมีอยู่ 2 คน ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนทั้ง 2 คนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
ส่วนกรณีที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้แก้ได้ และมีทางออก และยืนยันชัดเจนว่า พรรคพลังประชารัฐรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์