xs
xsm
sm
md
lg

WHO ยกระดับ"ฝีดาษลิง"เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข หลังพบสายพันธุ์ใหม่ ตายเร็วขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บีบีซี รายงานว่า นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.67) ให้การระบาดของโรคฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ mpox) เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่หน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หลังจากนักวิทยาศาสตร์ค้นพบสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า สายพันธุ์เคลดวัน (Clade 1) แพร่ระบาดรวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมและมีอัตราการเสียชีวิตเร็วกว่า ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายประเทศทางตอนกลาง และตะวันออกของทวีปแอฟริกา เช่น บุรุนดี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง เคนยา และรวันดา แสดงความกังวลที่โรคฝีดาษลิงมีแนวโน้มแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายประเทศในทวีปแอฟริกาและประเทศอื่นๆ ที่อยู่นอกทวีปแอฟริกา พร้อมแนะนำให้หน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกประสานความร่วมมือเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดและช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลกให้ปลอดภัย

ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์จำแนกโรคฝีดาษลิงเป็น 2 สายพันธุ์ สายพันธุ์แรก เรียกว่า สายพันธุ์เคลดวัน (Clade 1) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิม มีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 10 สายพันธุ์ที่ 2 เรียกว่า สายพันธุ์เคลดวันทู(Clade 2) เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีรายงานในเดือนกรกฎาคม 2565 พบการแพร่ระบาดในประเทศต่างๆกว่า 100 ประเทศ รวมถึงยุโรปและเอเชีย มีอัตราการแพร่ระบาดช้ากว่า และมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าสายพันธุ์เคลดวัน

โรคฝีดาษลิง สามารถติดต่อจากคนสู่คนจากการสัมผัสกับผู้ป่วย รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสผิวหนัง การพูด หรือการหายใจใกล้กับผู้ป่วย มีอาการคล้ายไข้หวัด มีตุ่มเล็กๆ คล้ายผื่นขึ้นตามตัว โดยเฉลี่ยผู้ป่วย 4 ใน 100 รายเสียชีวิต ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้ว 450 รายในประเทศคองโก ทางตอนกลางของทวีปแอฟริกา และมีผู้เสียชีวิต 140 รายประเทศอื่นๆ นอกทวีปแอฟริกา นับตั้งแต่ปี 2565