นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมวุฒิสภาผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตใน 3 วาระ รัฐบาลยืนยันจะใช้งบประมาณตามวัตถุประสงค์โปร่งใส ตรวจสอบได้เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อประชาชน และการกระตุ้นพัฒนาเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งได้สอบถามเกี่ยวกับการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งพบว่าประชาชนที่ผ่านเงื่อนไขรับดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนใหญ่ หรือ 82.6% ลงทะเบียน ไม่ลงทะเบียน 17.4% โดยประชาชนกลุ่มตัวอย่างมีลักษณะการใช้เงิน 10,000 บาท ภายในครั้งเดียวที่ 64.1% แบ่งใช้หลายครั้ง 14.7% ไม่แน่ใจ 21.2% และสำหรับประเภทของสินค้าที่จะใช้ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร เสื้อผ้า 32.7% สินค้าเพื่อการศึกษา 17.7% เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) ของใช้ส่วนตัว 16.9% สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร 11.5% ยารักษาโรค 8.4% ธูปเทียนและเครื่องสักการะ ชุดถวายสังฆทาน 6.5% สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน 6.2%
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยอดการลงทะเบียน และความคิดเห็นของประชาชนทำให้รัฐบาลมีกำลังใจทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต เงินเหล่านี้มีความหมายกับประชาชนที่เฝ้ารอ และเป็นไปตามความตั้งใจของรัฐบาลตั้งแต่ต้น ที่จะดำเนินนโยบายอย่างถูกต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง ทั้งนี้ รัฐบาลขอบคุณทุกเสียงสนับสนุน และขอให้มั่นใจว่าจากยอดลงทะเบียนที่เกิดขึ้นรัฐบาลจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจเพื่อเป็นแรงกระตุกฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย