นางกิรณา (สงวนนามสกุล) นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วัย 60 ปี พร้อมนายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ เต้ อาชีวะ และ น.ส.บรรณฑรวรรณ สมบัติธรรกุล ทนายความ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะทำงาน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ธนาคาร หักยึดเงินในบัญชีที่เป็นเงินเก็บทั้งชีวิตจากการทำธุรกิจ 29 ล้านบาท พร้อมจะยึดที่ดินย่านพระราม 3 มูลค่ากว่าร้อยล้าน
นางกิรณา เล่าว่า ตนเองทำธุรกิจด้านอสังหาฯ เก็บเงินมาทั้งชีวิตหวังเป็นมรดกให้ลูกหลาน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายเครือข่ายบริหารคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารแห่งหนึ่ง หักเงินในบัญชีไป 29 ล้านบาท เนื่องจากตนเองได้ค้ำประกันให้กับบริษัทนำเข้าส่งออกและโลจิสติกส์ ซึ่งสาเหตุมาจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตัวบริษัทที่ตนไปค้ำประกันขาดสภาพคล่อง แต่ยังมีการติดต่อกับธนาคารตลอด ต่อมามีเจ้าหน้าที่ทางธนาคารติดต่อเพื่อจะปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งมีการดำเนินการขอแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และแจ้งชะลอการฟ้อง ซึ่งบริษัททางลูกหนี้ที่ตนไปค้ำประกันก็ติดต่อกับทางธนาคารอยู่ตลอด
ด้าน นายปรเวศ รัฐขจร ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องจากผู้เสียหายและจะดำเนินการส่งเรื่องถึง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อตรวจสอบและประสานงานต่อ หลังจากนี้ จะทำการตรวจสอบจะแจ้งกลับไปทางผู้เสียหายรับทราบถึงความคืบหน้าอีกครั้ง
นางกิรณา เล่าว่า ตนเองทำธุรกิจด้านอสังหาฯ เก็บเงินมาทั้งชีวิตหวังเป็นมรดกให้ลูกหลาน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายเครือข่ายบริหารคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารแห่งหนึ่ง หักเงินในบัญชีไป 29 ล้านบาท เนื่องจากตนเองได้ค้ำประกันให้กับบริษัทนำเข้าส่งออกและโลจิสติกส์ ซึ่งสาเหตุมาจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตัวบริษัทที่ตนไปค้ำประกันขาดสภาพคล่อง แต่ยังมีการติดต่อกับธนาคารตลอด ต่อมามีเจ้าหน้าที่ทางธนาคารติดต่อเพื่อจะปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งมีการดำเนินการขอแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และแจ้งชะลอการฟ้อง ซึ่งบริษัททางลูกหนี้ที่ตนไปค้ำประกันก็ติดต่อกับทางธนาคารอยู่ตลอด
ด้าน นายปรเวศ รัฐขจร ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องจากผู้เสียหายและจะดำเนินการส่งเรื่องถึง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อตรวจสอบและประสานงานต่อ หลังจากนี้ จะทำการตรวจสอบจะแจ้งกลับไปทางผู้เสียหายรับทราบถึงความคืบหน้าอีกครั้ง