กองทัพอิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีค่ายผู้พลัดถิ่น 2 แห่ง ในฉนวนกาซา คือที่กาซาซิตี และที่บูเรจี รวมทั้งมีการบุกจู่โจมตีค่ายผู้พลัดถิ่นนูเซรัตที่อยู่ใกล้เคียง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย
องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ สำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) รายงานเพิ่มเติมว่า มีโรงเรียนของสหประชาชาติอย่างน้อย 6 แห่ง ซึ่งใช้เป็นที่พักพิงสำหรับผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์ ถูกโจมตีในช่วง 10 วันที่ผ่านมา และมีสถาบันการศึกษา 120 แห่ง ได้รับผลกระทบตั้งแต่อิสราเอลเริ่มทำสงครามในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ยอมรับว่าครอบครัวผู้พลัดถิ่นที่ต้องพักอาศัยอยู่ในห้องเรียนต่างๆ มีความเหนื่อยล้า ความบอบช้ำทางใจ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่แออัดและไม่ถูกสุขอนามัย
นางหลุยส์ วอเทอร์ริดจ์ เจ้าหน้าที่สื่อสารอาวุโสของ UNRWA กล่าวว่า สำหรับพลเรือน โรงเรียนให้ความปลอดภัยในยามสงคราม ภายใต้ธงสหประชาชาติ โรงเรียนเหล่านี้ควรได้รับการปกป้อง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหน่วยงานต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการในการจัดหาสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้พลัดถิ่น และประเมินว่า 9 ใน 10 คนในฉนวนกาซา คือผู้ที่ถูกบังคับให้ต้องละทิ้งบ้านเรือน หลายคนต้องย้ายที่พักพิงไปแล้วถึง 10 ครั้ง นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความไม่สะดวกอย่างมาก แต่ผู้พลัดถิ่นต่างก็ยอมรับว่า การพักอยู่ในโรงเรียนดีกว่าการพักอยู่ในเต็นท์พลาสติก ที่พักชั่วคราวกลางทะเลทราย