กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ครั้งล่าสุด วานนี้ (16 ก.ค.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจของไทยในปี 2567 จะขยายตัว 2.9% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือน เม.ย.ที่ระดับ 2.7% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัว 3.1% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9% ส่วนเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัว 3.2%ในปี 2567 ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือน เม.ย. และคาดเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.3% ในปี 2568 อย่างไรก็ดี ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐสู่ระดับ 2.6% ในปี 2567 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.7% และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นสู่ระดับ 0.7% ในปี 2567 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 0.9%
IMF ระบุว่า จีนและอินเดียจะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 5% ในปี 2567 โตจากคาดการณ์เดิม 0.4% ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับของรัฐบาลจีนประกาศเป้าหมายไว้ ที่ระบุว่าจะมาจากฟื้นตัวของภาวะการบริโภคประชาชนและการส่งออกที่แข็งแกร่ง พร้อม ๆ กับปรับขึ้นประมาณการณ์จีดีพีปี 2568 ของจีนจาก 4.1% เป็น 4.5% ด้วย ส่วนเศรษฐกิจอินเดียปรับเพิ่มคาดการณ์ อีก 0.2% เป็นเติบโตได้ 7% ในปีนี้ ในส่วนของยุโรป ปรับขึ้นคาดการณ์จีดีพีของปีนี้ 0.1% เป็น 0.9% แต่คงตัวเลขปี 2568 ไว้ที่ 1.5% โดยระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศในยุโรปนั้น ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้ว
IMF เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงจากเงินเฟ้อในระยะสั้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้ารอบใหม่ก็นำไปสู่การปรับขึ้นของต้นทุนสินค้านำเข้าในห่วงโซ่อุปทานซึ่งส่งผลต่อแรงกดดันด้านราคาให้ทรงตัวในระดับสูงต่อไป และประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เชื่อมโยงกับนโยบายเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการเลือกตั้งของหลายประเทศก็อาจส่งผลกระทบต่อประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก