ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ว่า เป็นความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งเป็นการเรียกร้องของชาวนา จึงได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว จะตั้งคณะกรรมการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นที่ต้องการของชาวนาหรือไม่นั้นต้องดูว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เปิดให้เกษตรกรลงทะเบียน ว่าสนใจโครงการนี้หรือไม่ ซึ่งต้องดูตรงนี้ไม่ใช่ไปบังคับหรือยัดเยียดให้เกษตรกร เรื่องนี้เกษตรกรต้องการหรือไม่ จะต้องแยกกัน เพราะบางคนออกไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเพิ่มภาระให้เกษตรกร เกษตรกรที่ไม่มีความพร้อมไม่เข้าร่วมโครงการก็ไม่ได้ไปบังคับ เมื่อเกษตรกรลงทะเบียนแล้ว ยังต้องไปเข้าแอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส. ซึ่งเงินจะไม่ผ่านระบบราชการ แต่สิ่งสำคัญที่สุดหลายคนไปมองว่ามีการล็อกสเปก ล็อกสูตรปุ๋ย ล็อกบริษัทหรือไม่ แต่เรื่องนี้เปิดโอกาสให้ทุกบริษัท เข้าร่วมโครงการ โดยลงทะเบียนผ่านกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณภาพปุ๋ย เป็นเรื่องของการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรประเภทข้าว
ส่วนที่ชาวนาต้องการไร่ละ 1,000 บาท ไม่ได้ต้องการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นส่วนที่รัฐอุดหนุนให้กับเกษตรกรที่มีปัญหา จากปัญหาพืชผลราคาตกต่ำ ภัยแล้ง น้ำท่วม เป็นคนละส่วนกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวยังมีอยู่หากเกิดวิกฤตกับชาวนา
ส่วนกรณีที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีสั่งให้ทบทวนโครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้น ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เป็นขั้นตอนที่ไม่ให้หน่วยงานราชการเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ เพื่อให้เกิดเกษตรกรได้ปุ๋ย สำหรับพัฒนาคุณภาพข้าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้แถลงข่าวว่าเมื่อมีโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง จะไปยกเลิกการจ่ายเงินเงินอุดหนุนไร่ละ 1,000 บาท ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าเป็นการนำสองเรื่องมารวมกัน หากโครงการปุ๋ยคนละครึ่งผ่านไปแล้วแต่ชาวนายังเดือดร้อน จากภัยธรรมชาติ ก็เป็นเรื่องที่รัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นปกติอยู่แล้ว