บีบีซีรายงานอ้างกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DoJ) ว่า โบอิ้ง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐฯ ยอมรับสารภาพในความผิดฐานฉ้อฉลกรณีหลอกลวงให้องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐฯ (FAA) หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบการพลเรือนของสหรัฐฯ เข้าใจผิด ว่า ระบบช่วยควบคุมการบินอัตโนมัติ (MCAS) ของเครื่องบิน 737 แม็กซ์ มีความปลอดภัย และจ่ายค่าไกล่เกลี่ยรวม 243.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7,500 ล้านบาท หลังผลสอบพบว่า บริษัทโบอิ้งเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงกับทางการสหรัฐฯในปี 2564 และอาจถูกฟ้องคดีอาญา
การสอบสวนดังกล่าวมีขึ้นหลังเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ของสายการบินไลออน แอร์ของอินโดนีเซียตกในปี 2561 และเหตุเครื่องบินรุ่นเดียวกันของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ในปี 2562 มีผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 346 ราย โดยผลสอบสวนของผู้เชี่ยวของสหรัฐฯ ในเวลาต่อมา พบว่า อุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้งเกิดจากสาเหตุเดียวกันคือ ระบบช่วยควบคุมการบินอัตโนมัติขัดข้อง เป็นเหตุให้เครื่องบินตก
ข้อตกลงไกล่เกลี่ยนี้จะต้องได้รับการพิจารณาอนุมัติจากผู้พิพากษาของสหรัฐฯ ก่อน จึงจะมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย แต่ผลของการตกลงรับสารภาพในคดีนี้ ทำให้บริษัทโบอิ้งไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนความผิดทางอาญา
ด้านครอบครัวของผู้โดยสารที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโบอิ้งแม็กซ์ 737 ตกในอินโดนีเซีย และเอธิโอเปียเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว วิจารณ์บริษัทโบอิ้งยอมจ่ายค่าปรับก้อนโต แลกกับการไม่ถูกไต่สวนคดีอาญา ไม่สอดคล้องกับความประสงค์ของบรรดาญาติของผู้เสียหายที่ต้องการให้ DoJ ฟ้องคดีต่อศาลและเรียกค่าเสียหายจากบริษัทโบอิ้ง
ทั้งนี้ บริษัทโบอิ้งมีปัญหาวิกฤตเรื่องความปลอดภัยของเครื่องบินโดยสารมานับแต่เกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ตกในปี 2561 และ 2562 ส่งผลให้โบอิ้งสั่งระงับการบินด้วยเครื่องบินรุ่นนี้ทั่วโลกนานกว่าหนึ่งปี ต่อมาในเดือนม.ค.ปีนี้ เกิดเหตุประตูฉุกเฉินของเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737-9 ของบริษัทอลาสกา แอร์ไลน์ของสหรัฐฯ ร่วงหลุดกลางอากาศ ไม่นานหลังบินจากสนามบิน ทำให้นักบินต้องนำเครื่องบินกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน เหตุการณ์นี้ ผู้โดยสาร 174 คนและลูกเรือ 6 คนปลอดภัย แต่ทำให้หลายฝ่ายตรวจสอบมากขึ้นในเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของเครื่องบินโบอิ้ง